HIGHLIGHTS:
|
วันที่ 1 กับ 16 ทีไร ใจมันก็สั่นรัวทุกที เพราะซื้อลอตเตอรี่ไว้หลายใบ หวยไม่ออกเลขที่ซื้อ ก็แบบจะต้องพึ่งพาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกันหลายวัน ใครเป็นแบบนี้บ้าง ยกมือขึ้น! และยิ่งถ้าหากรู้ว่าเพื่อนหรือคนรู้จักถูกรางวัลที่ 1 เข้าให้ด้วยแล้ว โอ้ยแม่เจ้า ร้อยทั้งร้อยไม่มีดีใจกับเขาหรอก อิจฉามาก่อน ตามมาด้วยความเสียดาย ทำไมเขาโชคดีจังวะ และทำไมเราโชคไม่ดีอย่างเขาบ้าง ถ้าคุณคิดแบบนี้อยู่ล่ะก็ คุณมั่นใจได้อย่างไรว่าคนถูกหวยจะโชคดีอย่างนั้นจริงๆ เรื่องราวต่อไปนี้อาจช่วยเป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต เป็นแนวคิดดีๆที่จะทำให้คุณ “โดนหวยกิน” แล้วยังมีความสุขได้
เงินมากไม่ได้แปลว่าความสุขจะมากตามไปด้วย
“เงินทอง” เป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิตข้อนี้จริง ไม่มีใครเถียงได้ แม้เงินจะสามารถซื้อชีวิตคนได้ แต่คุณรู้ไหมเงินไม่สามารถซื้อความสุขและแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตในวันพรุ่งนี้ของคุณได้เลยนะ คุณรู้ไหมว่ามีคนที่เฝ้าภาวนาให้ตนเองถูกหวยเป็นล้านๆคน หวังว่าจะได้ลาภลอยจากหวยแบบก้อนใหญ่สักครั้งในชีวิต และบางคนก็ได้จริงเสียด้วย แต่ปรากฎว่าถูกหวยได้เงินมากลับไม่มีความสุข ทั้งที่คิดว่าขอแค่มีเงินก็น่าจะมีความสุขแล้วแท้ๆ แต่ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ ยกตัวอย่างเช่นเรื่องต่อไปนี้
คืนวันหนึ่ง ขณะที่สตีฟนอนหลับอยู่ที่ชั้นสองของบ้าน จู่ๆก็ได้ยินเสียงดัง “ตูม!” จากนอกบ้านจนสะดุ้งขึ้นจากเตียง สตีฟตกใจรีบเปิดหน้าต่างดู เห็นหลุมขนาดใหญ่ตรงสวนของจอห์นเพื่อนบ้านที่อยู่ข้างๆกัน ในนั้นมีควันสีขาวพวยพุ่งออกมา ดูเหมือนอุกกาบาตตกใส่ข้างบ้าน สตีฟรีบออกไปดู ส่วนจอห์นที่เป็นเพื่อนบ้านพอเห็นสภาพสวนของตนเองแล้วก็ถึงกับเหม่อ ถอนหายใจแรงๆ ยืนมองหลุมขนาดใหญ่ที่อยู่ในสวนของตัวเองด้วยสีหน้าที่ยากจะบรรยายจอห์นโอดครวญเมื่อเห็นสนามหญ้าที่อุตส่าห์ดูแลมาเป็นสิบปีด้วยความภูมิใจพังราบเป็นหน้ากลอง สตีฟจึงพูดปลอบใจว่า “โชคร้ายจัง” แต่ในใจกลับรู้สึกโล่งอกว่า (โชคดีที่ตัวเองไม่โดนแบบนี้)
แต่หลังจากนั้น 10 วันต่อมา สตีฟก็ได้รู้ความจริงที่สุดแสนช็อก เขาเห็นข่าวในหนังสือพิมพ์ว่า มีเศรษฐีคนหนึ่งสนใจอุกกาบาตที่ตกใส่บ้านจอห์นแล้วเสนอเงินขอซื้ออุกกาบาตนั้นจากจอห์นเป็นเงิน 31 ล้านเหรียญ
“ทำไมหมอนั่นโชคดีขนาดนี้”
คราวนี้ความคิดของสตีฟเปลี่ยนไปจากเมื่อ 10 วันก่อน สตีฟเริ่มรู้สึกอิจฉาที่จอห์นได้โชคอย่างไม่คาดคิด (ถ้าอุกกาบาตตกเลื่อนมาอีก 10 เมตรก็เป็นของเราแล้วแน่ๆ) คิดแล้วสตีฟก็ปวดใจจนคืนนั้นนอนไม่หลับ เริ่มเกลียดจอห์นเพื่อนบ้านขึ้นมาอย่างตงิดๆ และสาปแช่งโชคร้ายของตัวเอง
“อุกกาบาตช่วยตกลงมาบ้างได้ไหม” สตีฟอธิษฐานกับท้องฟ้า ต่อมากลางดึกคืนหนึ่ง คราวนี้ได้ยินเสียงดังกว่าครั้งก่อนจนพื้นสะเทือน
“บ้าชะมัด ไปตกบ้านข้างๆ อีกแล้ว!”
สิ่งที่สตีฟเห็นตอนที่กำลังขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเปิดหน้าต่างออกไปดูคือ บ้านของจอห์นที่ถูกอุกกาบาตตกใส่จนพังยับไม่เหลือซาก ครอบครัวของจอห์นเสียชีวิตทั้งหมด พอเห็นแบบนี้สตีฟจึงเอามือทาบอกด้วยความโล่งใจ แล้วพึมพำขึ้นมาว่า
“อา เราโชคดีจัง”
แม้เรื่องที่เราเอามาเล่านี้จะดูเกินความจริงไปไกล แต่สิ่งที่อยากสื่อไปถึงทุกคนก็คือ สิ่งที่เรียกว่า โชคดี โชคร้าย ดวงดี ดวงตก นั้นเป็นมุมมองเฉพาะตัว และยังเป็นมุมมองเชิงเปรียบเทียบด้วย
อย่าเอาชีวิตไปผูกติดอยู่กับโชค
เราได้ยินอยู่บ่อยๆ เรื่องที่มีคนถูกหวยหลายสิบล้าน แม้วินาทีนั้นเจ้าตัวอาจจะดีใจมากที่ตัวเองโชคดีจริงๆ แต่เพราะเรื่องถูกหวยนี้ก็อาจทำให้ญาติพี่น้องผิดใจกัน ครอบครัวแตกแยก จึงไม่จริงเสมอไปที่เมื่อรวยฟ้าผ่าแล้วจะมีความสุข มี “เงิน” แต่ไม่มีชีวิตจะได้ใช้ “เงิน” มันจะมีความหมายอะไร หรือมี “เงิน” แต่ไม่มีเพื่อน ไม่มีญาติ ไม่มีคนรัก ถ้าให้คุณต้องเลือกคุณจะเลือกอะไร? แล้วทำไมต้องท้อแท้เมื่อไม่มีเงิน ไม่ถูกหวย เสียดายได้แต่อย่าเสียใจ อย่าทำให้ชีวิตเราต้องพังเพราะเลือกที่จะทุ่มเทให้กับโชคชะตาที่เราไม่อาจคาดเดาหรือรู้ได้ แต่คุณควรทุ่มเทให้กับการตามหาแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตในวันต่อๆไปจะดีกว่า ลองถามตัวเองสิว่า “อะไรที่จะทำให้เรามีความสุขในการใช้ชีวิตในวันต่อๆไป”
อันที่จริงที่ประเทศญี่ปุ่นเคยมีผลสำรวจออกมาแล้วว่า คนที่ถูกหวยนั้น เมื่อดูในระยะยาวแล้วระดับความสุขกลับไม่ได้เพิ่มขึ้นตามตัวเงิน ยกตัวอย่างเช่นคนถูกหวยในสหรัฐอเมริกา พอได้รางวัลเป็นเงินมหาศาลระดับหลายพันล้าน แม้ก่อนหน้านั้นเคยเป็นคนที่สนุกกับงาน ก็กลับดูแคลนเงินเดือนอันน้อยนิดของตัวเอง ไม่อยากทำงานแล้วตัดสินใจลาออก นั่นคือการที่เขาได้สูญเสียความสุขจากการทำงานไป เมื่อได้เงินก้อนใหญ่มาง่ายๆโดยไม่ต้องลำบาก จึงเป็นเหตุให้ไม่รับรู้ถึงความสุขเล็กๆที่เมื่อก่อนเคยสัมผัส อีกหนึ่งตัวอย่างที่เราขอยกขึ้นมาเปรียบเทียบครอบครัวที่เคยมีความสุขมากในวันที่พ่อเงินเดือนออกแล้วพากันไปกินอาหารญี่ปุ่นใกล้บ้านกันพร้อมหน้า แต่พออยู่ๆถูกหวย 20 ล้านบาท ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ไม่แน่ว่าพวกเขาคงเลิกกินอาหารญี่ปุ่นในเมืองไทย แล้วต้องไปขวนขวายหาอาหารญี่ปุ่นที่ประเทศญี่ปุ่นแทนก็ได้ อาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยรสชาติจะแตกต่างจากอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับในประเทศญี่ปุ่นแค่ไหนกันเชียว รสชาติไม่แตกต่างมาก แต่ราคาน่ะแตกต่างกันชัดเจนอยู่แล้วเพราะผู้กินจะต้องบวกค่าเดินทางค่าที่พักและอื่นๆเข้าไปด้วย และถ้าการได้มาซึ่งเกินก้อนโตนั้นเป็นชนวนเหตุทำให้เกิดความขัดแย้งกันในครอบครัวอีกล่ะ อย่าว่าแต่เสมอตัวเลย เผลอๆติดลบด้วยซ้ำ กลายเป็นว่าเรื่องนี้ไม่เกิดตั้งแต่แรกยังจะดีเสียกว่า และสุดท้ายแล้วไม่รู้ว่าจะเรียกว่าโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ เหมือนชีวิตในแต่ละวันถูกควบคุมด้วยโชคชะตา แล้วคุณอยากใช้ชีวิตที่มีอิสระหรือถูกคุมขังด้วยโชคชะตากันล่ะ