ขณะที่ #ก้าวคนละก้าว ได้เขย่าโลกโซเชียล พี่ตูนก็วิ่งไปเรื่อยพบอุปสรรคบ้างเป็นระยะๆ แต่ก็ไม่มีการท้อถอยวิ่งจนถึงกรุงเทพฯแล้วเมื่อคืนนี้ สิ่งเหล่านี้ทำให้เราได้เห็นว่าการทำความดีและการมอบความสุขให้ผู้คนนั้นไม่จำเป็นเสมอไปต้องให้เป็นทรัพย์สมบัติ แก้วแหวนเงินทอง จุดเริ่มต้นก็มาจากจิตใจและความคิดทั้งนั้น ใช้ใจและความคิดสร้างสรรค์เป็นที่ตั้ง ไม่ได้เอาทรัพย์สมบัติเป็นที่ตั้ง สิ่งที่เกิดขึ้นจึงมีคุณค่าและครองใจคนได้มากกว่าที่เราคาดคิดไว้ ขณะที่พี่ตูนกำลังวิ่งเพื่อมอบความสุขให้คนในชาติเราอยู่ในขณะนี้ ทางอีกฝากฝั่งของโลกอย่างเมืองลุงแซม รัฐฟลอริด้าสหรัฐอเมริกา ก็มีสาวน้อยใจใหญ่คนหนึ่งปิ๊งไอเดียในการเติมความสุขและรอยยิ้มให้กับเด็กๆทั้งหลายที่ต้องทนทุกข์อยู่ในโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วย สาวน้อยคนนี้เธอชื่อว่า Kayla Abramowitz
สาวน้อยมหัศจรรย์ที่ร่วมแบ่งปันความสุขต่อเพื่อนมนุษย์
เป็นธรรมดาเหลือเกินที่เด็กก็สมควรที่จะได้ใช้ชีวิตแบบเด็กๆอย่างเต็มที่ที่สุด บางคนวุ่นวายกับเรื่องเล่น เรื่องเพื่อน เรื่องในโรงเรียน เรื่องการศึกษาต่อ แต่ทั้งหมดเหล่านี้ไม่ใช่กับสาวน้อย Kayla Abramowitz เพราะเธอโชคร้ายป่วยเป็นโรคที่มีอาการเรื้อรังต้องทำการรักษาอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่อายุ 6 ขวบ และที่แย่กว่านั้นน้องชายของเธอก็ป่วยด้วยโรคเดียวกับเธอด้วย Kayla ต้องใช้ชีวิตเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่นตั้งแต่ตอนนั้น ตอนที่เธอควรจะได้ไล่เล่นอยู่กับความฝันของเธอ แต่แล้วโชคชะตากลับเล่นตลกกับเธอแบบจริงจังให้เธอต้องเจ็บไข้เสียก่อน สิ่งที่ Kayla ต้องพบเจอและสัมผัสจึงแตกต่างไปจากเด็กคนอื่นๆในวัยเดียวกัน แต่นั่นแหละคือสิ่งที่จุดประกายแรงบันดาลใจในการขยายโลกของเธอออกไปในแบบที่เธอเป็น Kayla มีประสบการณ์อันน่าเจ็บปวดและน่าเบื่อตลอดเวลาหลายปี เธอเข้าใจเป็นอย่างดีเลยว่าชีวิตในโรงพยาบาลไม่ใช่เรื่องสนุก จะเล่นก็ทำไม่ได้ จะเรียนก็ทำได้ไม่ถนัด จะเคลื่อนไหว จะกระโดดโลดเต้นก็ทำอย่างใครคนอื่นไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ ตอนอายุ 11 ปี Kayla จึงปิ๊งไอเดียที่แสนน่ารัก เธอหันกลับมามองตัวเธออีกครั้ง เธอคิดว่าเธอไม่ชอบการเข้าโรงพยาบาล เด็กคนอื่นๆที่ต้องเข้าโรงพยาบาลก็คงจะไม่ชอบและไม่มีความสุขเช่นกัน งั้น เธอต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อเติมความสุขและสร้างรอยยิ้มให้กับเด็กคนอื่นๆไปด้วยขณะที่พวกเขาต้องรักษาตัวเข้าๆออกๆโรงพยาบาลน่าจะเป็นเรื่องที่ดี เธอจึงเริ่มคิด เธอตัดสินใจว่าเธอน่าจะลองไปเป็นอาสาสมัครในโรงพยาบาลเด็กดู แต่ว่าอายุของเธอน่ะยังไม่ถึงเกณฑ์เลย เธอก็เลยสมัครไม่ได้ แต่เธอมี Passion แล้วเธอจึงไม่หยุดอยู่เพียงแค่นั้น เธอเริ่มตั้งคำถามอีกครั้งว่า “แล้วฉันจะช่วยอะไรได้บ้าง?” เธอค่อยๆนั่งคิดที่บ้าน เธอค่อยๆหันไปดูรอบๆห้องของเธอ ดูบริบทสิ่งแวดล้อมต่างๆรอบบ้าน แล้วเธอก็พบว่ามีดีวีดีภาพยนตร์และการ์ตูนที่ไม่ได้ดูแล้วอยู่ในบ้านของเธอค่อนข้างเยอะทีเดียว เออ ใช่ อันนี้แหละเป็นความคิดที่ดี…
และก็ใช่จริงๆ ความคิดเธอดีมาก เธอเริ่มประกาศรับบริจาคสื่อเพื่อการศึกษาและบันเทิงต่างๆ ดีวีดี หนังสือ ของเล่น และเกม เพื่อนำไปแจกจ่ายตามแผนกเด็กของโรงพยาบาล ซึ่งคุณพ่อคุณแม่และครอบครัวของเธอก็ช่วยกันเป็นปากเป็นเสียงให้กับความคิดสร้างสรรค์อันนี้ของเธอด้วย เป้าหมายครั้งแรกเป็นการรวบรวมดีวีดีเพื่อบริจาคให้ได้ 100 แผ่น แล้วงานนี้ก็สำเร็จได้ง่ายมากๆ หลังจากที่ทุกคนทราบว่าผู้ขอรับบริจาคเป็นใคร มีผู้สนับสนุนมากมายในครั้งนั้น หลังจากนั้นยอดบริจาคครั้งต่อๆไปก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ มีองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมช่วยเหลือและสนับสนุนด้วย จากความคิดของเด็กคนหนึ่งที่ไปกระตุกต่อมสามัญสำนึกของผู้ใหญ่จึงทำให้เกิดแรงกระเพื่อมบางอย่างขึ้นมาในสังคมทันที จนถึง ณ ปัจจุบันนี้เธอได้ส่งมอบดีวีดีไปแล้วมากกว่า 14,000 แผ่น รวมถึงเครื่องเล่นดีวีดี อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเล่นวิดีโอเกม วีดีโอเกม หนังสือ ของเล่น และอุปกรณ์ศิลปะให้กับโรงพยาบาลเด็กมากกว่า 400 แห่งในอเมริกาไปแล้วด้วย
และที่น่าทึ่งไปกว่านั้นปัจจุบัน Kayla Abramowitz ดำรงตำแหน่งผู้ก่อตั้งและผู้บริหารสูงสุดของ Kayla Cares 4 Kids อันเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรที่ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อการกุศลสำหรับเด็กๆที่ต้องทนทุกข์กับการเจ็บป่วย ด้วยวัยเพียง 15 ปี เท่านั้นและเธอยังคงเดินหน้าสานต่อโปรเจ็กต์ Kayla Cares 4 Kids อย่างต่อเนื่อง และยิ่งนานวันเข้าก็ยิ่งผู้ใหญ่ให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ จำนวนร่วมบริจาคและผู้ให้การสนับสนุนก้เพิ่มมากขึ้นอยู่เรื่อยๆเช่นกัน แต่ผู้สนับสนุนที่สำคัญที่สุดสำหรับ Kayla คุณพ่อคุณแม่และครอบครัวของเธอนั่นเอง
การทำเพื่อสังคมกำลังจะกลายเป็นเทรนด์โลก
เรื่องราวของ Kayla Abramowitz กับพี่ตูนของเราหากมองไปก็คล้ายๆกัน นั่นทำให้เรารู้สึกได้ว่า เรื่องของความคิดสร้างสรรค์ อันเป็นความคิดที่จะช่วยสังคมและเพื่อนมนุษย์นั้นไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง เผ่าพันธุ์ใดเผ่าพันธุ์หนึ่ง ศาสนาใดศาสนาหนึ่ง หรือชาติใดชาติหนึ่ง คนทุกเชื้อชาติเผ่นพันธุ์ก็ย่อมมีคนที่คิดสร้างสรรค์เพื่อสังคมและเพื่อนมนุษย์อยู่ด้วยเสมอ และแนวโน้มในปัจจุบันคนที่คิดสร้างสรรค์แบบนี้ก็เริ่มจะมีมากขึ้นและชัดเจนมากขึ้น กระแสแบบนี้เริ่มเข้าไปสู่ภาคธุรกิจและค่อยแทรกซึมเข้าไปในวัฒนธรรมองค์กร และถ่ายทอดจากองค์กรไปสู่สังคมกลุ่มใหญ่และนั่นก็เท่ากับว่า แนวคิดเหล่านี้จะกลายเป็นเทรนด์โลกในไม่ช้า
เราเชื่อว่าคนรุ่นใหม่อย่าง Gen Z ลงไป จะทำอะไรก็จะเริ่มคิดเพื่อสังคมกันมากขึ้น ในต่างประเทศอย่างอเมริกาก็อาจมี Kayla Abramowitz เป็นผู้จุดกระแสเทรนด์ทำเพื่อสังคม ส่วนในบ้านเราก็คงจะเป็นพี่ตูน บอดี้สแลมนี่เองที่เป็น Idol จุดกระแสเทรนด์ทำเพื่อสังคมแบบนี้ขึ้นมา ซึ่งเรามองว่าถ้าเทรนด์ทำเพื่อสังคม กลายเป็นเทรนด์โลกขึ้นมาจริงๆ มันคงจะเป็นเรื่องที่ดีเอามากๆ สังคมโลกคงจะลดความขัดแย้ง ลดสงครามและการฆ่าฟันกันไปได้มาก ไม่มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ไม่มีการทารุณเด็กและสตรีเกิดขึ้นให้เราเห็นกันอีก พวกเราคงจะเห็น “คน” เป็น”คน” กันมากขึ้น และเราก็ขอเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสนับสนุนผลักดันเทรนด์ทำเพื่อสังคมแบบนี้ให้เป็นเทรนด์โลกด้วยอีกหนึ่งเสียง
ข้อมูลและภาพอ้างอิงจาก: kaylacares4kids.org, facebook.com/KaylaCares4Kids/