ช่วงๆนี้คือสิงหาคมในปีที่แล้วที่ประเทศนิวซีแลนด์ได้มีการจัดแคมเปญที่ไม่ยิ่งใหญ่อลังการคือสัปดาห์ Rail Safety Week หรือสัปดาห์แห่งความปลอดภัยในการข้ามทางรถไฟขึ้น ซึ่งในนิวซีแลนด์เองก็พบปัญหาความปลอดภัยในการข้ามทางรถไฟของประชาชนอยู่บ่อยๆเหมือนกัน จึงมีความคิดที่จะจัดทำแคมเปญนี้ขึ้นเพื่อความปลอดภัยของผู้คนพลเมือง แต่แคมเปญอันเงียบง่ายแสนจะธรรมดานี้ก็กลายเป็นเรื่องที่น่าทึ่ง และอาจจะกลายเป็นต้นแบบของนวัตกรรมความปลอดภัยในอนาคตของอีกหลายๆประเทศก็ได้เพราะบริษัทโฆษณาClemenger BBDO ได้มีการสร้างสรรค์ผลงานสุด Creative ที่มีชื่อว่า Conscious Crossing ขึ้นมาในแคมเปญนี้ด้วย จนทำให้เป็นที่ถูกอกถูกใจชาวเมืองกีวี่เป็นอย่างมาก
Conscious Crossing หรือการตั้งสติก่อนข้าม เป็นการทดลองที่จะ “เล่นกับพฤติกรรมความเคยชินของผู้คน” ซึ่งบริษัทโฆษณา Clemenger BBDO ได้มีการให้ทีมนักออกแบบสร้างสรรค์รั้วกั้นทางรถไฟใหม่ อันที่จริงแล้วก็เป็นรั้วกั้นแบบหมุน (movable gates) ที่เราสามารถเห็นได้ทั่วไปนั่นเอง แต่การเติมความคิดสร้างสรรค์ลงไปในสิ่งเดิม จึงทำให้สิ่งที่เรียบง่ายที่ดูแสนจะธรรมดา กลายเป็นสิ่งที่ไม่ธรรมดาขึ้นมาทันที ทีมนักออกแบบของ Clemenger BBDO ได้นำชุดรั้วกั้นหมุนได้นี้ไปติดตั้งไว้ที่บริเวณจุดข้ามทางรถไฟในเมือง ซึ่งโดยปกติแล้วก็จะดูอันตรายอยู่ไม่น้อย เพราะไม่ได้มีสัญญาณเตือนที่ปลอดภัยอย่างเป็นทางการ จะข้ามทีประชาชนก็ต้องดูกันเอาเอง ซึ่งถ้าใครที่ต้องอาศัยเส้นทางนั้นสัญจรทุกวัน หรือมีบ้านอยู่แถว ๆ นั้นก็คงจะข้ามทางรถไฟนี้ไปมาอย่างเคยชิน เหมือนรู้จังหวะของรถไฟ ซึ่งจริงๆแล้วเป็นสิ่งที่ไม่ปลอดภัยนัก เพราะถึงจะคุ้นเคยอย่างไรอุบัติเหตุก็ไม่เคยแจ้งเตือนก่อนเลยสักครั้ง แต่เมื่อมีการนำรั้วกั้นที่เติมความ Creative ลงไปแล้วไปวางกั้น ทำให้คนที่จะเดินข้ามหรือนักปั่นทั้งหลายที่ข้ามทางรถไฟนี้เป็นประจำต้องหยุดชะงักรวมรวมสมาธิตั้งสติก่อนข้ามทางรถไฟทันที เพราะรูปแบบการจัดวางรั้วแต่ละครั้งจะไม่เหมือนกันมีการเปลี่ยนใหม่ทุกวัน เหมือนการวางเกมปริศนาอักษรไขว้ เหมือนการตั้งโจทย์คณิตศาสตร์แบบง่าย ที่ผู้เล่นจะต้องคิดหาทางแก้ไขก่อนจะไปต่อ
เคยมีผลการวิจัยที่ชี้ถึงพฤติกรรมของมนุษย์เอาไว้ว่า สมองของมนุษย์นั้นจะมีการตื่นตัวมากขึ้นเมื่อพบเจอกับสถานการณ์หรือเหตุการณ์ตรงหน้าที่ผิดปกติไปจากเดิมหรือไม่คุ้นชินมาก่อน ดังนั้น ไอเดียสุดสร้างสรรค์นี้จึงอาจจะเรียกว่าเป็นนวัตกรรมได้อย่างหนึ่งเลยทีเดียว เป็นนวัตกรรมที่แทบไม่ต้องลงทุนอะไรเลย ใช้เพียงความคิดที่ต้องวิเคราะห์และทำความเข้าใจพฤติกรรมมนุษย์อย่างลึกซึ้งเท่านั้น ก็สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงความเคยชินของพฤติกรรมมนุษย์ที่กล้าเดินก้มหน้าเล่นมือถือ ฟังเพลงขณะข้ามทางรถไฟไปได้แล้ว
นี่ละนวัตกรรมเพื่อสังคมของแท้ของจริงเรียบง่าย ประหยัดแต่สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนได้ กด Like ให้เลย
เครดิตข้อมูลจาก: campaignbrief.com
เครดิตภาพจาก: dandad.org