เมื่อเรากล่าวกันเรื่องที่อยู่อาศัย แน่นอนเลยว่าทุกคนล้วนต้องการอสังหาริมทรัพย์ที่แข็งแรงมั่นคงและพร้อมที่จะอยู่กับเราไปนานๆ แต่อย่างที่รู้กันว่าอสังหาริมทรัพย์ต่างๆไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโดมิเนียม หรือทาวน์เฮ้าส์ก็ตาม ไม่ใช่สิ่งที่มีราคาร้อยสองร้อย ทั้งหมดล้วนมีราคาต้นทุนที่ต้องจ่ายสูงมาก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่หลายๆคนเลือกที่จะซื้อที่อยู่อาศัยแบบมือสอง ทั้งบ้านมือสอง คอนโดมือสอง และทาวน์เฮ้าส์มือสอง แต่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจลงทุนซื้อ มีหลายประเด็นที่คุณต้องรู้เสียก่อนจะได้ลงทุนครั้งใหญ่นี้ไม่ผิดพลาด

เลือกที่อยู่อาศัย ต้องคิดถึงใจคนอยู่

     การลงทุนซื้อบ้านมือสองสักหลังไม่ว่าคุณจะซื้อเก็บไว้ให้เป็นมรดกลูกหลานหรือว่าจะซื้อไปอยู่เองก็ตาม สิ่งสำคัญก็คือ ต้องคิดถึงเวลาอยู่อาศัยจริงเสมอ หากซื้อบ้านมือสองไว้อยู่เอง คุณอาจจะปรับตัวได้ แต่ถ้าเป็นการซื้อไว้ให้คนอื่นอยู่ต่อ คุณจะต้องคิดถึงอนาคตข้างหน้าด้วย ซึ่งไม่ว่าจะเป็นบ้านมือสอง คอนโดมือสอง หรือทาวน์เฮ้าส์มือสองก็ตามหลักในการพิจารณาก็ไม่ต่างกันนัก คือ

  1. ต้องสะดวกในการเดินทาง ทั้งการเข้าการออก มีความคล่องตัวอีกทั้งควรอยู่ใกล้ๆระบบขนส่งมวลชน หากอยู่ในซอยก็ไม่ควรเป็นซอยตัน
  2. ไม่ควรอยู่ชิดหรืออยู่ริมถนนหลัก เพราะนอกจากเรื่องเสียงแล้วมลพิษทางอากาสก็ยังเยอะอีกด้วย
  3. ควรอยู่ห่างไกลจากจุดบ่อบำบัดน้ำเสียและจุดทิ้งขยะรวมของชุมชน
  4. ควรตรวจสอบพิจารณาเรื่องของโครงสร้างของบ้านอย่างละเอียดให้แน่ใจว่าบ้านไม่มีรอยรั่วรอยร้าวต่างๆ
  5. สำรวจสภาพแวดล้อมรอบๆ รวมถึงเรื่องของชุมชนและเพื่อนบ้าน ไม่ควรเป็นชุมชนแออัด

การตรวจสอบเรื่องอื่นๆเพื่อความมั่นใจ

เมื่อเลือกบ้านมือสองในทำเลที่มั่นใจได้แล้ว ก็อย่าเพิ่งวางใจว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยอย่างที่คิดไว้ ยังเหลือสิ่งที่ต้องพิจารณาตรวจสอบอีกดังนี้

  1. ตรวจสอบเรื่องกรรมสิทธิ์ในบ้านมือสองหลังนั้นๆให้แน่ใจอีกครั้ง ว่าผู้ขายที่ติดต่อกับเรานั้นถือครองกรรมสิทธิ์ด้วยตัวเองหรือไม่ หากมีการมอบหมายเป็นตัวแทนต้องตรวจสอบเอกสารมอบอำนาจให้แน่ใจด้วยว่าถูกต้องยืนยันเชื่อถือได้
  2. ต้องมีการตรวจสอบด้วยว่าบ้านมือสองหลังนั้นๆมีการติดจำนอง หรือมีการใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันหนี้สินกับสถาบันการเงินแห่งใดหรือไม่ เพราะขั้นตอนเหล่านี้ต้องคุยรายละเอียดกันตั้งแต่ทีแรกจึงจะมีการโอนกรรมสิทธิ์กันได้อย่างถูกต้อง
  3. หากเป็นคอนโดมือสองคุณควรจะต้องขอดูเอกสารการจดทะเบียนอาคารชุด ดูเรื่องของนิติบุคลและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ให้ละเอียด จะได้ไม่ต้องเสียเงินภายหลังแบบไม่ได้ตั้งตัว
  4. ตรวจสอบเรื่องค่าน้ำค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ต่างๆให้มั่นใจอีกครั้งว่าเจ้าของเดิมไม่ติดค้างชำระอยู่ไม่อย่างนั้น คุณก็จะต้องวุ่นวายเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้อีกมาก
  5. ต้องทำความเข้าใจในข้อตกลงเกี่ยวกับค่าโอนกรรมสิทธิ์และค่าธรรมเนียมต่างๆรวมถึงภาษีให้เข้าใจชัดเจน ว่าใครจะเป็นผู้จ่ายบ้าง เราต้องจ่ายส่วนไหนจะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง

เหล่านี้ถือเป็นเรื่องที่คนต้องการที่อยู่อาศัยมือสองต้องรู้และทำความเข้าใจให้ดี หากละเอียดรอบคอบในเรื่องเหล่านี้ คุณก็จะได้บ้านมือสอง คอนโดมือสอง หรือทาวน์เฮ้าส์มือสอง ที่ดีต่อคุณและผู้อยู่อาศัยคนอื่นๆด้วย