คุณเคยไหม? เวลาต้องรีบเดินทางไปทำอะไรสักอย่าง แต่พอมาสตาร์ทจะรีบขับไปให้ถึงที่หมาย แต่เจ้ากรรมรถยนต์สุดรักกับทำพิษ อยู่ๆก็งอแงสตาร์ทไม่ได้ ทำยังไงก็สตาร์ทไม่ติด ถ้าเจอปัญหารถสตาร์ทไม่ติดแบบนี้ล่ะก็ต่อให้มีรถหรูราคาแพงแค่ไหนก็ไม่มีความหมายใดๆเลย แต่ไม่ต้องตกใจหรือเป็นกังวลไป วันนี้เรามีเทคนิครถดีๆ เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาเรื่องรถสตาร์ทไม่ติดมากฝากกัน โดยส่วนใหญ่แล้วสิ่งที่คุณต้องทราบเบื้องต้นก่อนเลยก็คือ กรณีอยู่รถสตาร์ทไม่ติดนั้นมักจะเกิดขึ้นจากแบตเตอรี่มีปัญหา ซึ่งถ้าคุณต้องการเช็คให้ชัวร์ว่าเป็นปัญหาที่แบตเตอรี่จริงหรือไม่ ขอแนะนำให้คุณทำดังนี้
1.ตอนบิดกุญแจสตาร์ทลองสังเกตความผิดปกติของรถ
ถ้าลองสตาร์ทครั้งแรกแล้วรถสตาร์ทไม่ติด ให้คุณใจเย็นๆไว้ก่อน ตั้งสติแล้วทำใจเย็นๆอย่างเพิ่งหงุดหงิด ให้คุณลองสตาร์ทใหม่อีกครั้งและระหว่างที่ลองสตาร์ทอีกครั้งให้คุณสังเกตความผิดปกติตอนบิดกุญแจรถสตาร์ทเครื่องไปด้วย ถ้าตอนบิดกุญแจคุณได้ยินเสียงดังแชะๆ หรือบางทีก็เงียบไป ไม่มีเสียงสัญญาณอะไรเลย ก็ให้คุณสันนิษฐานไว้ก่อนเบื้องต้นว่า ปัญหามาจากแบตเตอรี่รถยนต์แน่ๆ ถ้าคุณพอจะจัดการได้บ้างลองไปขยับขั้วแบตเตอรี่ลองดูก่อน บางทีขั้วอาจจะหลวม ถ้าขั้วหลวมจริงๆการลองขยับขั้วดูอาจจะช่วยให้รถสตาร์ทได้ตามปกติ
2.กดแตรรถแล้วลองฟัง
ถ้าคุณลองทำตามขั้นตอนในข้อที่ 1 แล้วและแน่ใจว่าขั้วแบตเตอรี่รถยนต์ไม่หลวม แต่รถสตาร์ทไม่ติดอยู่เหมือนเดิม สิ่งที่เราขอแนะนำให้คุณทำต่อไปก็คือ ลองกดแตรรถยนต์ของคุณดูและลองสังเกตเสียงของแตรว่าดังเป็นปกติหรือไม่ ตรงนี้นับเป็นเทคนิครถอีกอย่างที่ควรไม่ควรรู้ในกรณีรถเกิดปัญหาสตาร์ทไม่ติด เสียงแตรรถสามารถบอกอะไรเราได้ ที่แน่นอนเลยก็คือ ความดังเบาของเสียงแตรเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงกำลังไฟฟ้าในรถ ถ้าเสียงแตรเบากว่าทุกครั้งแสดงว่าแบตเตอรี่มีไฟอ่อนกำลังไฟไม่พอจึงทำให้แตรรถเบานั่นเอง โดยส่วนใหญ่แล้วถ้าแบตเตอรี่กำลังไฟอ่อนหรือหมดเร็วกว่าปกติก็น่าจะมาจากกรณีที่คุณ เผลอเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถทิ้งไว้โดยไม่รู้ตัว หรือจะเป็นสาเหตุอื่นที่ซับซ้อนกว่าก็ได้ทั้งนั้น ถ้าคุณค่อนข้างมั่นใจว่าเกิดจากแบตเตอรี่ไฟอ่อนก็ให้ลองพ่วงแบตเตอรี่ ชาร์จไฟเข้าไปแล้วลองสตาร์ทใหม่อีกครั้ง ถ้ารถสตาร์ทได้ก็ให้คุณขับไปสักพักอย่างเพิ่มรีบดับเครื่อง เพื่อให้แบตเตอรี่ได้ชาร์จไฟอย่างเต็มที่นั่นเอง
3.เช็คระบบไฟให้ครบ
ถ้าคุณลองทำทั้ง 2 ข้อด้านบนแล้ว รถยังสตาร์ทไม่ติดเหมือนเดิม ก็ให้คุณลองเช็คระบบไฟทุกอย่างในรถ วิธีก็ไม่ยากให้คุณเปิดไฟหน้า ไฟฉุกเฉิน เปิดกระจกไฟฟ้าคู่หน้า ขึ้นลงพร้อม ๆกัน เหยียบเบรก เข้าเกียร์ถอย เปิดแอร์ให้แรงที่สุด เปิดวิทยุ เรียกว่าเปิดระบไฟทุกอย่างในรถ ทำทุกอย่างโดยไม่สตาร์ทเครื่องยนต์ จากนั้นลองสังเกตที่ละส่วนอย่างไฟหน้าสว่างน้อยลงไหม กระจกเปิดแล้วหนืดหรือเปล่า ถ้าไฟไม่สว่างกระจกดูฝืดๆเวลาเปิด สาเหตุก็เป็นไปได้ 2 กรณีคือ ถ้าไม่เป็นกรณีแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ ก็เป็นกรณีไดชาร์จเสื่อม ถ้ามาถึงตรงนี้แนะนำว่าเรียกช่างมาดูดีกว่าจะได้เช็คให้แน่ใจ
4.เช็คไดสตาร์ทด้วย
ถ้าคุณยังไม่แน่ใจและข้อทดสอบให้มั่นใจอีกครั้งก่อนเรียกช่าง ก็แนะนำว่าให้ลองตรวจสอบไดสตาร์ทดู รถสตาร์ทไม่ติดหากไม่เกิดจากแบตเตอรี่ก็น่าจะเป็นจากไดสตาร์ทมีปัญหา แต่กรณีถ้าคุณจะตรวจสอบคุณก็ต้องพอมีความรู้เรื่องเครื่องยนต์เล็กน้อย ถ้าคุณพอจะรู้ตำแหน่งว่าไดสตาร์ทอยู่ตรงไหนให้ลองหาไม้สักอันมาเคาะไดสตาร์ทเบาๆ จากนั้นให้ลองทำการสตาร์ทรถอีกครั้ง ถ้าสตาร์ทรถได้ก็แสดงว่าไดสตาร์ทของคุณยังไม่เสียแต่แค่สกปรก ถ้ามีโอกาสก็น่าจะถอดไดสตาร์ทมาล้างบ้าง ให้ช่างทำให้ก็ได้ แต่ถ้าลองเคาะแล้วยังสตาร์ทไม่ติดก็แสดงว่าไดสตาร์ทของคุณพัง กรณีนี้เตรียมเสียสตางค์เปลี่ยนใหม่กันได้เลย
ดังนั้น รถสตาร์ทไม่ติดไม่ต้องกังวลไม่ต้องเครียด ค่อยๆเช็คทีละอย่างจนแน่ใจก่อนบางทีคุณอาจจะแก้ไขด้วยตัวเองได้ และนี่คือเทคนิครถดีๆที่เรานำมาฝากทุกคน