ในการซื้อคอนโดนั้น ระหว่างคอนโดใหม่กับคอนโดมือสองอาจมีความแตกต่างกันในบางเรื่องอย่างน้อยๆก็เรื่องของขั้นตอนการจองและซื้อ แต่ในที่นี้จะขอกล่าวในกรณีของคอนโดใหม่เท่านั้น ถ้าคุณจะซื้อคอนโดมือหนึ่ง เวลายื่นกู้ไปแล้วไม่ผ่าน เงินดาวน์ของคุณจะอยู่ที่โครงการ โดยที่แต่ละบริษัทมีนโยบายในการจัดการเรื่องนี้ไม่เหมือนกัน บางแห่งยินดีคืนเงินทั้งหมด หรือ คืนบางส่วน เพื่อจะได้เปิดโอกาสให้ลูกค้ารายใหม่ที่มีความพร้อมมากกว่าเป็นเจ้าของแทน บางบริษัทนโยบายชัดเจนคือริบเงินดาวน์ทั้งหมด ซึ่งข้อความเหล่านี้มักอยู่ในสัญญาที่จะทำการซื้อขายตั้งแต่แรกอยู่แล้ว คุณจะต้องดูให้ดี ดังนั้น ตรงจุดนี้จะไม่ใช่ความผิดของโครงการ
ปัญหาต่อมาสำหรับคนต้องการคอนโดอย่างเรา ถ้ากู้ไม่ผ่านจะต้องทำอย่างไรดี ในเรื่องนี้เรามีคำแนะนำมาบอกกัน จะได้วางแผนขั้นต่อไปได้ถูก
1.กู้ร่วม เพื่อเพิ่มรายได้ให้เพียงพอกับค่างวด ธนาคารอนุญาตให้ผู้ขอสินเชื่อทำการกู้ร่วมกับบุคลในครอบครัวสูงสุดไม่เกิน 3 คน หรือคู่สมรส รวมถึงแฟนได้ บางธนาคารในปัจจุบัน อนุโลมให้สิทธิ์กู้ร่วมคู่รักเพศเดียวกันได้
2.หากยังกู้ร่วมไม่ผ่าน ลองเจรจากับทางโครงการขอยืดระยะเวลาในการโอนออกไปสัก 3 – 6 เดือน เพื่อเดิน statement หรือไปโละหนี้ของเก่าก่อนยื่นกู้กับทางธนาคารอีกครั้ง
3.หากทำทั้งข้อ 1 และ 2 แล้วยังไม่ได้อีก ให้ลองเจรจากับทางโครงการขอเงินคืนบางส่วน หรือย้ายเงินดาวน์ไปโครงการอื่นในบริษัทเดียวกัน ที่ยังไม่ถึงกำหนดเวลาโอนคอนโด อย่างน้อยจะได้มีเวลาในการยืดเวลาในการทำ statement ให้ดีขึ้น
4.ให้ขายสัญญา ขายดาวน์ออกมาในราคาเท่าทุนหรือขาดทุนเล็กน้อยเพื่อจูงใจให้คนสนใจมาซื้อต่อจากเรา
5.ทางสุดท้าย พยายามมาทุกข้อแล้วแต่ถึงอย่างไรก็กู้ไม่ได้ ก็คงต้องถึงวิธีสุดท้ายคือ Cut Loss หรือยอมทิ้งเงินดาวน์ วิธีนี้เจ็บแต่จบปัญหาได้ การที่คุณไม่สามารถโอนห้องคอนโดได้ปกติ แสดงว่าคุณต้องมีปัญหาอะไรบางอย่าง ส่วนมากไม่พ้นเรื่องรายได้ไม่พอ ซึ่งเราก็อยากบอกว่าจริงๆ การ Cut Loss หรือยอมทิ้งเงินดาวน์ไม่ได้เป็นหนทางที่เลวร้าย ในทางกลับกัน เป็นการตัดภาระที่จะเกิดขึ้นกับตัวคุณเองในอนาคตที่ดีกว่าอีกด้วย
เหล่านี้คือ หนทางการแก้ปัญหาของคนที่อยากซื้อคอนโด แต่ติดปัญหาเรื่องการยื่นกู้ไม่ผ่าน ลองแก้ปัญหาไปที่ละขั้นตอนตามนี้นะ ปัญหาต่างๆก็จะได้บรรเทาเบาบางลงสำหรับมือใหม่ที่อยากมีคอนโด