หากความรักของคุณไปได้ไม่สวยอย่างที่ใจคิด แต่ก็มีบ่วงคล้องเป็นพยานรักคือการกู้ร่วมผ่อนบ้านมาด้วยกัน และคุณก็ยังรู้สึกเสียดายและรักบ้านหลังนั้น อีกทั้งก็คำนวณแล้วว่ารับภาระผ่อนต่อคนเดียวได้ แต่อีกใจก็ยังกล้าๆกลัวๆ เป็นกังวลอยู่ไม่น้อยว่าจะจ่ายต่อคนเดียวไหวไหม และการจะดำเนินการผ่อนจ่ายต่อคนเดียวต้องทำอย่างไรบ้าง ในตอนที่ 2 นี้เรามีคำแนะนำในการผ่อนบ้านต่อคนเดียวในกรณีเคยกู้ร่วมมาฝากกัน
เริ่มต้นจากไปเปลี่ยนแปลงสัญญากับทางธนาคารก่อน
เมื่อคุณตัดสินใจแล้วว่าจะผ่อนบ้านต่อคนเดียว ยังไงก็ขอเก็บทางเลือกขายบ้านเป็นทางเลือกสุดท้าย คุณก็ต้องไปติดต่อกับทางธนาคารเพื่อเปลี่ยนแปลงสัญญาและทำการถอนชื่อผู้กู้ร่วมออกไป แต่ในกระบวนการขั้นตอนนี้ไม่ใช่ว่าทำไปแล้วธนาคารจะยินยอมให้คุณผ่อนบ้านต่อคนเดียวเสมอไป เพราะตรงนี้ทางธนาคารจะทำการประเมินภาระค่าใช้จ่าย ประเมินรายได้ของคุณใหม่อีกครั้ง ถ้าธนาคารเห็นว่าคุณมีภาระค่าใช้จ่ายมากเกินไป ไม่สามารถรับภาระการผ่อนบ้านคนเดียวต่อไปได้ก็จะไม่อนุมัติยินยอม กรณีที่ธนาคารไม่ยินยอมให้ผ่อนบ้านต่อคนเดียวแบบนี้ วิธีแก้ปัญหาก็คือคุณต้องหาผู้กู้ร่วมคนใหม่ หรือไม่อย่างนั้นก็ขอรีไฟแนนซ์บ้านกับทางธนาคารไปเลย การรีไฟแนนซ์บ้านก็คือการขอสินเชื่อใหม่เพื่อมาปิดภาระหนี้สินเดิม ซึ่งแบบนี้ก็จะทำให้คุณสามารถผ่อนต่อคนเดียวได้แต่ถ้าไม่มีปัญหาอะไร รายรับคุณสูงและภาระหนี้สินค่าใช้จ่ายต่ำธนาคารก็จะอนุมัติให้ผ่อนคนเดียวต่อได้ แต่กรณีนี้คุณก็ต้องมีการเสียค่าธรรมเนียมให้กับทางธนาคารเล็กน้อยด้วย
ต่อมาก็มาทำการเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์
ในขั้นตอนของการเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ถือครองนั้นจะต้องไปดำเนินการต่อกันที่สำนักงานที่ดินหรือกรมที่ดิน ซึ่งขั้นต่อนี้จะเป็นการเอาชื่อออกจากบ้านนั่นเอง หากว่าคุณกับคนรักเป็นแค่แฟนยังไม่ได้แต่งงานจดทะเบียนสมรส ก็จะทำได้ง่ายกว่าจดทะเบียนสมรสแล้ว เป็นแค่แฟนกันหรืออยู่กินกันโดยไม่จดทะเบียนตามกฎหมายตรงนี้จะมองว่าการเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์เป็นเพียงการซื้อขายบ้านแบบทั่วไป แต่ถ้าแต่งงานแล้วทรัพย์สินและหนี้สินตรงนี้จะมีรายละเอียดลึกลงไปอีก ซึ่งเราไม่ขอกล่าวถึงในกรณีนี้ ในการมาทำเรื่องเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์บ้านนั้น เมื่อมองว่าเป็นการซื้อขายแล้วก็จึงจำเป็นต้องมีการเสียค่าโอน 2 % ของราคาประเมิน และยังต้องเสียภาษีด้วย ซึ่งภาษีนั้นถ้าคุณถือครองกรรมสิทธิ์ในบ้านหลังนั้นไม่ถึง 5 ปี และชื่อคุณก็ยังไม่ได้เข้าไปในทะเบียนบ้านคุณก็จะไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ หากคุณถือครองกรรมสิทธิ์ในบ้านหลังนั้นไม่ถึง 5 ปี แต่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านมา 1 ปี แบบนี้ก็ไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะเช่นกัน แต่จะเสียค่าอากร 0.5% แทน
ซึ่งคุณจะเห็นว่า หากเลิกกันแล้วตัดสินใจจะผ่อนบ้านต่อคนเดียว มีขั้นตอนที่ยุ่งยากไม่น้อย แต่ถ้ามั่นใจแล้วก็ขอให้ใจเย็นๆ ค่อยๆทำไปทีละขั้นตอน เตรียมเงินที่จะต้องชำระแต่ละส่วนไว้ให้พร้อม คุณก็จะได้ไม่ต้องมาเหนื่อยใจและเป็นกังวลในภายหลัง อย่าลืมนะบ้านเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงจะกู้ร่วมกับใครไตร่ตรองถึงผลได้ผลเสียในอนาคตให้ดีก่อนทุกครั้ง