ศุภวุฒิ สายเชื้อ กูรูนักวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจ ชี้ว่า เศรษฐกิจไทยในปีหน้ายังจะคงชะลอตัวอยู่ เนื่องจากปัจจัยสำคัญ 2 อย่างคือ สงครามการค้าจีน – สหรัฐฯ กับ การที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกาศขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง นั่นจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจไทยและยังทำให้สภาพคล่องยังไม่ดีในปีหน้า

ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษาสถาบันวิจัยกลุ่มธุรกิจการเงิน เกียรตินาคินภัทรเปิดเผยว่าทิศทางเศรษฐกิจปีหน้ามี 2 ปัจจัยสำคัญ คือเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐ และผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน โดยสหรัฐมีความเคลื่อนไหว 3 ประเด็นหลัก

1.รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ อาจจะเป็น “เป็ดง่อย” เพราะพรรครีพับลิกันคงจะแพ้การเลือกตั้งกลางเทอม ทำให้จะผ่านกฎหมายยากมาก

2.การขับเคลื่อนเศรษฐกิจสหรัฐด้วยนโยบายการคลังที่ลดภาษี และการใช้จ่ายของรัฐจะเริ่มแผ่วลงครึ่งหลังของปี 2562 เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐจะค่อยๆโตช้าลง

3.ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ซึ่งวันนี้ดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐอยู่ที่ 2.25% ปลายปีนี้จะขึ้นดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้ง และคาดว่าปีหน้าจะขึ้นอีก 3 ครั้ง หมายความถึงสิ้นปีหน้าจะขึ้นอีก 1% ซึ่งก็จะส่งผลต่อเศรษฐกิจประเทศอื่นๆซึ่งทั้ง 3 เรื่องนี้ถือว่ามีความสัมพันธ์ต่อประเทศอื่นๆ

ขณะที่ปัญหาสงครามการค้าส่วนใหญ่ตลาดทุนยังคาดการณ์ว่าทรัมป์จะถอยภายในต้นปีหน้า อันนี้ก็ต้องดูว่าจะเป็นจริงหรือเปล่า เพราะดูจากท่าทีฝ่ายความมั่นคงทางการค้าของทรัมป์ต้องการจัดการกับจีนแบบเบ็ดเสร็จ ให้เศรษฐกิจจีนไม่สามารถเทียบรัศมีเศรษฐกิจสหรัฐได้ ซึ่งจีนคงจะยอมไม่ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นจะเป็นปัญหาสงครามเย็นทางการค้าแบบยืดเยื้อ ในกรณีนี้จะสร้างความไม่แน่นอนอย่างมาก ทำให้การลงทุนชะงัก

Tariffs-Flash-2ndหากมองในภาพรวมขณะนี้การลงทุนทั่วโลกชะงักลงจากนโยบายต่างๆของทรัมป์ นักลงทุนไม่แน่ใจสถานการณ์ก็จึงไม่รู้จะไปลงทุนที่ไหนดีทำให้จีดีพีไม่โต การจ้างงานไม่เกิด ประเด็นเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐ และสงครามการค้าทำให้เศรษฐกิจโลกปีหน้าดูแย่และยากกว่าที่คิด ตรงนี้ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยปีนี้โตขึ้นแค่ 9% ส่วนปีหน้าคาดว่าจะโตน้อยลงอยู่ที่ 4% เท่านั้น

ดร.ศุภวุฒิอธิบายว่า ปีหน้าเศรษฐกิจไทยมี 2 ประเด็นคือ

1.จะหาเครื่องยนต์เศรษฐกิจตัวไหนมาทดแทนภาคการส่งออกที่จะโตลดลง และ

2.ธปท.จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยแค่ไหน แต่ ธปท.อาจไม่ต้องเร่ง เพราะเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเยอะ เงินเฟ้อยังไม่สูง ทำให้ไม่ต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ย ยกเว้นว่า ธปท.อยากขึ้นเอง เพราะจากความเห็นของ กนง. อยากขึ้นดอกเบี้ยมาก ประเด็นหนึ่งที่มีการพูดคือ กลัวว่าดอกเบี้ยสหรัฐจะสูงกว่าไทยมากเกินไป

ดังนั้น ใครจะวางแผนธุรกิจในปีหน้าต้องคิดดูให้รอบคอบ ก่อนจะลงทุนหรือทำโปรเจคอะไรต้องตามดูภาวะเศรษฐกิจในภาพรวมให้ดี จะได้ไม่บาดเจ็บมากนัก