เราไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า “บ้าน”เป็นสิ่งที่ใครก็ต้องการ เพราะเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ของมนุษย์ แต่ทว่าในยุคสมัยปัจจุบันพาหนะอย่าง “รถยนต์” ก็หลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่เราเองก็ขาดไปไม่ได้เหมือนกัน เพราะเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญในการทำงานและการเดินทางในชีวิตประจำวัน บ้านก็จำเป็น รถก็อยากได้ แต่ไม่อาจจะซื้อทั้งสองอย่างได้พร้อมๆกัน เพราะแต่ละอย่างต้นทุนก็สูงลิบลิ่ว เรียกว่า ผ่อนกันเลือดตาแทบกระเด็นอยู่แล้ว เมื่อต้องเลือกซื้อทีละอย่างแบบนี้ จะเลือกอะไรก่อนดี  เรามีคำแนะนำมาฝากกัน

1.พิจารณาความจำเป็นก่อนเป็นอันดับแรก

     มีหลายคนมีบ้านของคุณพ่อคุณแม่อยู่ ซึ่งก็อยู่กันเป็นครอบครัวกันมาแบบนี้ตั้งแต่เด็กๆแล้ว แต่พอโตขึ้นมาก็อาจจะต้องการย้ายออกมาอยู่ส่วนตัวเพื่อสร้างครอบครัวใหม่ หากหน้าที่การงานมั่นคง รายได้มั่นคงพอก็อาจจะตัดสินใจเลือกซื้อบ้านก่อนก็ได้ แต่ถ้าการอยู่กับครอบครัวเดิมไม่ได้สร้างปัญหาความหนักใจใดๆก็แนะนำว่าซื้อรถก่อน เพื่อนำไปต่อยอดในการทำงานต่อไป สร้างรายได้และความสะดวกรวดเร็วในการทำงานและใช้ชีวิตเพิ่มขึ้น บางคนทำงานเป็นเซลส์ บางคนทำงานเกี่ยวกับการขนส่ง ซึ่งถ้าไม่รถก็จะลำบากมาก เมื่อมีรถแล้วก้อาจช่วยให้การงานมั่นคงมากขึ้นผ่อนรถหมดก็อาจจะค่อยคิดผ่อนบ้านทีหลังต่อไปก็ได้ ส่วนกรณีที่เดิมที่เช่าบ้านหรือคอนโดอยู่มาแต่เดิม อันนี้ก็แนะนำว่าควรจะซื้อบ้านก่อนรถ เพราะการซื้อรถในขณะที่ต้องผ่อนค่าเช่าบ้านหรือคอนโดไปด้วยคุณจะไม่ไหว และอีกประการถ้าจะผ่อนก็น่าจะซื้อบ้านเป็นของตนเองไปเลยแล้วผ่อนกับธนาคารจะดีกว่า จะเป็นบ้านชั้นเดียวไม่ใหญ่โต หรือบ้านมือสองสภาพดีก็ได้ ราคาก็ไม่แพงมากแต่ก็น่าอยู่ไม่น้อย เพราะเมื่อคุณผ่อนหมดบ้านก็จะเป็นของเราทันที อีกทั้งยังเก็บไว้เป็นมรดกภายหลังต่อไปให้ลูกหลานได้ด้วย ดังนั้น จะซื้ออะไรพิจารณาจากความจำเป็นของชีวิตตนเองก่อน

2.แน่ใจนะว่าพร้อมเป็นหนี้

     บ้านและรถต่างก็เป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง และไม่ได้ซื้อกันง่ายๆไม่ว่าคุณจะตัดสินใจซื้อสิ่งใดก่อนก็ตาม ส่วนใหญ่เราก็ต้องซื้อผ่อนกันทั้งนั้น ต้องไปกู้เงินขอสินเชื่อจากธนาคาร และตรงนี้จะเป็นภาระค่าใช้จ่ายระยะยาวทีเดียวที่จะต้องรับผิดชอบ ภาระหนี้สินที่คุณต้องผ่อนจ่ายต่อเดือนนั้น เราขอแนะนำว่าไม่ควรเกิน 30 % ของรายได้ เพราะถ้าเกิดสัดส่วนหนี้สินมากไปกว่านี้ อนาคตคุณอาจจะรับภาระไม่ไหว การซื้อบ้าน แม้คุณจะเลือกบ้านมือสอง หรือบ้านเล็กๆแบบบ้านชั้นเดียวก็ตามราคาก็ยังสูงอยู่และต้องผ่อนจ่ายกันเป็นสิบปีขึ้นไป อีกทั้งยังต้องมีค่าตกแต่ง ค่าซ่อมบำรุงต่างๆ รถยนต์ก็เช่นกัน ค่าน้ำมัน ค่าซ่อม ค่าประกัน มีให้เราต้องจ่ายอยู่ตลอด ฉะนั้น คุณต้องถามตัวเองให้ดีว่าพร้อมเป็นหนี้แน่นะ

3.เตรียมเงินดาวน์ไว้หรือยัง

     จริงอยู่ว่าการซื้อบ้านและรถนั้นสามารถผ่อนจ่ายได้ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องมีเงินดาวน์ก่อนแรก และเวลาคุณไปขอสินเชื่อกับธนาคาร ทางธนาคารจะไม่ได้อนุมัติวงเงินกู้ให้คุณ 100 % เขาจะแบ่งสัดส่วนลดหลั่นกันลงมาจากราคาของบ้านหรือรถ อย่างถ้าเป็นสินเชื่อบ้านธนาคารก็จะอนุมัติให้คุณได้ 80 – 95 % เท่านั้น ส่วนรถยนต์ก็จะอยู่ที่ 75 – 85 % ซึ่งเงินที่เหลือที่เราไม่ได้มาจากการขอกู้กับธนาคารนั้นก็จะต้องใช้เป็นเงินดาวน์นั่นเอง ดังนั้น ตอนนี้คุณต้องไปเช็คตัวเองก่อนว่า เงินออมของคุณพอไหมที่จะลงทุนเป็นเงินดาวน์ไปกับบ้านหรือรถในตอนนี้

     ทั้งบ้านและรถ ล้วนเป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวันในตอนนี้ของเราทุกคน แต่ในที่สุดแล้วก็ต้องมีสิ่งหนึ่งที่จำเป็นมากที่สุด ขอให้คุณดูความพร้อมของตนเอง และทบทวนกับตัวเองว่าอะไรจำเป็นที่สุด แล้วคุณก็จะลงทุนครั้งนี้แบบคุ้มค่าและไม่พลาด

Key takeaway

การจะเลือกลงทุนซื้อบ้านหรือรถก่อน ให้คุณพิจารณาจาก

  • ความจำเป็น
  • ความพร้อมทางการเงิน
  • ความพร้อมในการรับมือค่าใช้จ่ายต่างๆที่ตามมา