รอบ 2 – 3 ปีที่ผ่านมา เราได้ยินเรื่องของรถยนต์ไร้คนขับกันหนาหูมากขึ้น จะสามารถนำมาใช้จริงได้แค่ไหนนั้นยังไม่มีใครรับรองได้ถึงความปลอดภัย แต่ฝรั่งเศสมองข้ามเรื่องนี้ไปและให้ความสำคัญกับระบบขนส่งมวลชนที่ไร้คนขับมากขึ้น ล่าสุดเริ่มศึกษาและเตรียมความพร้อม ‘รถไฟไร้คนขับ’ โดยวางเป้าอีก 5 ปีจะนำมาใช้จริง
รถไฟถือว่าเป็นระบบขนส่งสาธารณะที่เก่าแก่และอยู่คู่กับมนุษย์มานานตั้งแต่ มนุษย์เริ่มรู้จักการใช้เครื่องจักร วิวัฒนาการของรถไฟ มีการพัฒนามาเรื่อยๆตามกาลเวลา แต่มาในยุคดิจิทัลนี้ แทบทุกอย่างสั่งการได้ด้วยปลายนิ้วหมดแล้ว ผู้ให้บริการรถไฟรายใหญ่ของฝรั่งเศส อย่าง SNCF จึงเตรียมที่จะพัฒนาระบบขนส่งด้วยรถไฟให้ก้าวไปอีกขั้น โดยการทำให้รถไฟกลายเป็นรถไฟไร้คนขับ ซึ่งจะใช้ทั้งในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร โดยจะร่วมมือพัฒนากับบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการบรรทุกสินค้าอย่าง Alstom (อัลสตอม) และ Bombardier (บอมบาร์ดิเอร์) เพื่อพัฒนาระบบต่อไปขณะนี้อยู่ในขั้นการศึกษารูปแบบโครงสร้าง โดยพวกเขาตั้งเป้าว่า จะทดลองใช้ขนส่งผู้โดยสารและสิ่งของในเส้นทางสายหลักในปี 2023
ทาง SNCF คาดว่าการใช้รถไฟไร้คนขับจะช่วยให้ระบบคล่องตัวยิ่งขึ้น และยังสามารถเพิ่มจำนวนรถไฟในเส้นทางหลักให้วิ่งได้หลายขบวนขึ้นในช่วงเวลาเร่งรีบ นอกจากนั้น ยังไม่สิ้นเปลืองพลังงานอีกด้วย
ทั้งนี้หลายคนอาจจะไม่ทราบว่าปัจจุบันรถไฟใต้ดินในหลายเมืองใหญ่ของฝรั่งเศสเปลี่ยนเป็นระบบไร้คนขับแล้ว โดยมีการใช้งานแบบไร้คนขับนี้มาสักระยะใหญ่ๆแล้วด้วย อย่างไรก็ดีรถไฟไร้คนขับที่มีอยู่นั้นก็เป็นการขนส่งในระยะสั้นๆวนเวียนอยู่ในเมือง แต่รถไฟไร้คนขับที่จะขับออกนอกเมืองหรือขนส่งเป็นระยะทางไกลๆนั้น นับว่ายังเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับพวกเขามาก ซึ่งตอนนี้เรื่องของรถไฟไร้คนขับนั้น ไม่ได้มีเพียงแค่ฝรั่งเศสเท่านั้นที่ให้ความสนใจ ออสเตรเลีย จีน และญี่ปุ่นเองก็เริ่มที่จะหันมาพัฒนาระบบเรื่องนี้กันแล้วด้วย สำหรับประเทศไทยก็คงยังต้องหวานเย็นกันต่อไปอีกนาน