พนักงานธนาคารต่างเริ่มร้อนๆหนาวๆ เมื่อสถานการณ์การทำธุรกรรมการเงินเปลี่ยนไป คนหันไปใช้โมบายแบงกิ้งกันมาขึ้น ทุกการทำธุรกรรมแทบจะตอบโจทย์ครบในที่เดียว จึงทำให้การทำธุรกรรมกับธนาคารผ่านสาขาต่างๆลดลงอย่างรวดเร็ว พนักงานธนาคารจึงหวั่นใจว่าจะถูกโยกย้ายหรือปลดในเร็วๆนี้
หลังจากโมบายแบงกิ้งได้พัฒนามากขึ้น ทำให้ทางธนาคารพาณิชย์ต่างๆ หันมาจับเทรนด์ธุรกรรมการเงินออนไลน์กันทั้งหมด และนั่นนำไปสู่กลยุทธ์ดึงลูกค้า ทุกธนาคารประกาศยกเว้นค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ หรือ โมบายแบงกิ้ง ทั้งการโอนข้ามเขต ชำระราคาสินค้า ส่งผลให้ ลูกค้าทางธนาคารต่างๆหันมาใช้โมบายแบงกิ้งกันมากขึ้น การทำธุรกรรมต่างๆด้านการเงินกับธนาคาร ถ้าไม่ใช่กรณีสินเชื่อ ทุกอย่างก็แทบจะทำได้ผ่านทางออนไลน์ แม้กระทั่งเปิดบัญชี บางธนาคารตอนนี้ก็สามารถเปิดออนไลน์ได้ด้วย สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาที่ทำให้พนักงานธนาคารต่างๆที่ประจำสาขาเริ่มหวั่นใจในอาชีพของตนเอง เพราะเมื่อธนาคารไม่ค่อยมีคนเข้ามาใช้บริการ การปิดสาขาก็สามารถเปิดขึ้นได้ นั่นหมายถึงว่า พนักงานธนาคารอาจจะต้องมีการโยกย้ายที่ทำงาน เปลี่ยนตำแหน่างหน้าที่ และถ้าเลวร้ายก็อาจจะถึงขั้นต้องถูกจ้างออก
เมื่อมาดูสถานการณ์การเข้าใช้บริการทำธุรกรรมการเงินออนไลน์จากธนาคารต่างๆ ก็จะพบตัวเลขดังนี้
ก็ไม่แปลกใจที่ทำไมพนักงานธนาคารต่างๆจึงเริ่มหนักใจ แต่เมื่อพิจารณาจากนโยบายของทางผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ก็ยังเห็นว่า ไม่มีแนวทางนโยบายที่จะปลดพนักงานออกในช่วงนี้ แต่การโยกย้ายและเปลี่ยนตำแหน่งหน้าที่นั้นอาจจะต้องมี ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนตำแหน่งหน้าที่เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาไปของโมบายแบงกิ้งและพฤติกรรมของผู้บริโภค ซึ่งทางผู้บริหารธนาคารต่างๆ ก็ยังขอให้ทางพนักงานเชื่อมั่นและมั่นใจ ว่าสถานการณ์จะไม่เลวร้ายถึงขั้นนั้น แต่พนักงานต้องปรับตัวและพร้อมที่จะเรียนรู้งานด้านใหม่ๆ ซึ่งจะทำให้คนกับเทคโนโลยีสามารถทำงานสอดคล้องกันไปได้
ส่วนกระแสเรื่องการยกเลิกค่าธรรมเนียมต่างๆในการทำธุรกรรมของทางธนาคารต่างๆ จะส่งผลกระทบต่อระบบงานของบริการ ‘เคาน์เตอร์เซอร์วิส’ นั้น เรื่องนี้ แหล่งข่าวระดับสูงจาก บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ช่วงนี้จำนวนลูกค้าที่มาชำระเงินผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสยังไม่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญใดๆ ตัวเลขเป็นปกติ เพราะส่วนหนึ่งกลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการเคาน์เตอร์เซอร์วิส จะเป็นอีกกลุ่มเป็นพ่อบ้านแม่บ้าน และพ่อค้าแม่ค้าทั่วไป ซึ่งเป็นคนรุ่นเก่า ส่วนกลุ่มที่หันไปใช้บริการชำระค่าสินค้าบริการต่างๆผ่านโมบายแบงกิ้งนั้นจะเป็นคนรุ่นใหม่ วัยรุ่น วัยเพิ่งเริ่มทำงาน ดังนั้น กลุ่มเป้าหมายเป็นคนละกลุ่มกัน กลุ่มคนรุ่นเก่าที่ยังใช้บริการเคาน์เตอร์เซอร์วิสนั้นมักไม่ค่อยใช้บริการโมบายแบงกิ้งสักเท่าไหร่ จึงไม่ได้ติดตามข่าวสารเรื่องเทคโนโลยี ตอนนี้จึงยังไม่น่าห่วง แต่ในระยะยาวแล้วก็ถือเป็นเรื่องที่ต้องคิดหนักเหมือนกัน เพราะโมบายแบงกิ้งทำธุรกรรมฟรี ก็เป็นเรื่องที่จะต้องมีการปรับตัวแก้สถานการณ์กันอีกครั้ง