“ยักกี้”(Yuccie)………จุดหมายปลายทางของเหล่านักการตลาดเทรนด์ใหม่

      เมื่อเอ่ยถึงเรื่องกลยุทธ์การตลาดแล้ว เราต้องยอมรับเลยว่านี่คือสิ่งหนึ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ปัจจุบันนี้การวางกลยุทธ์การตลาดของกลุ่มธุรกิจไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ก็ตาม ก็มักจะใช้วิธีการแบ่งตลาดผู้บริโภคออกเป็นส่วนๆซึ่งการทำเช่นนี้ก็เพื่อให้ง่ายต่อการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งผู้บริโภคแต่ละกลุ่มแต่ละวัยมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอในปัจจุบัน เมื่อเข้าใจผู้บริโภคแต่ละกลุ่มได้อย่างชัดเจนมากขึ้น ก็จะทำให้ผู้ประกอบการสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายนั้นๆ ที่ตรงตัวมากที่สุด

รู้จักกับ Yuccieกลุ่มคนสไตล์ใหม่ที่กำลังจะเติบโต

      โดยปกติหลักเกณฑ์การแบ่งตลาดออกเป็นส่วนๆที่นักการตลาดทั้งหลายนิยมนำมาใช้กันก็คือ การแบ่งส่วนตลาดตามประชากรศาสตร์ (Demographic Segmentation) ปกติเราก็จะใช่อายุ เพศ อาชีพ รายได้ การศึกษา ไลฟ์สไตล์ ซึ่งหลักเกณฑ์นี้ทำให้เราได้คุ้นเคยกับคำอีกหลายคำที่ใช้ในการแบ่งแยกคนออกเป็นกลุ่มๆตาม Generation อย่าง Baby Boomer, Gen X, Gen Y, Yuppies, DINK จนมาถึงกระแสฮิตล่าสุดที่เพิ่งมาได้ไม่นานนักก็คือ Hipster และตอนนี้ Hipster กระแสก็เริ่มซาลงและกำลังจะเอาท์ กระแสใหม่ที่กำลังจะเข้ามาแทนที่ตรงจุดนี้ก็คือ กลุ่มใหม่ที่เรียกกันว่า “ยักกี้” (Yuccie) ซึ่งย่อมาจากคำว่า Young Urban (Cool) Creatives นั่นเอง Yuccie คือกลุ่มคนทำงานวัยตั้งแต่ 20 กว่าถึง 30 ปีมีบุคลิกภาพเป็นลูกผสมระหว่างYuppies กับ Hipster เป็นลักษณะผสมทั้งสองแนวแบบก่ำกึ่งกัน คือจะมีความทะเยอทะยานในเรื่องของอาชีพการทำงาน อยากประสบความสำเร็จแต่จะไม่ชอบเป็นลูกจ้างทำงานประจำ อยากมีธุรกิจเป็นของตนเอง มีไอเดียและความคิดที่จะทำเงินสร้างรายได้อยู่ตลอดเวลาเหมือนกับ Yuppies และก็มีไลฟ์สไตล์และความคิดสร้างสรรค์ในชีวิต ไม่ตามใครแบบเดียวกับ Hipster ด้วย หากจะเรียกกลุ่ม Yuccie ว่าเป็น Hipster Businessperson ก็คงจะไม่ผิดนัก หากใครนึกไม่ออกว่าลักษณะของคนกลุ่ม Yuccie นี้เป็นอย่างไรให้ดูที่เทพตัวพ่ออย่าง มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก เจ้าของ facebook นี่ล่ะออกแนว Yuccie ชัดเจนมาก หรืออีกคน อีแวน สปีเกล ซีอีโอ Snapchat แอพพลิเคชั่นยอดนิยมของวัยรุ่นอเมริกันนี่ก็ใช่

2 Yuccie ตัวพ่อ อีแวน สปีเกล ซีอีโอ Snapchat และ มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก เจ้าของ facebook

Yuccie กลุ่มคนติดสปีด

      ในโลกของการทำธุรกิจนั้นจริงๆแล้วไม่ต่างอะไรกับการทำสงคราม ถ้าเมื่อไหร่เราตามความเคลื่อนไหวของฝั่งตรงข้ามได้ก่อนรู้ก่อนว่าเขาจะรบอย่างไร ฝ่ายเราก็ย่อมได้เปรียบ การทำธุรกิจก็เป็นเช่นนั้น ถ้าเราเข้าใจเทรนด์ใหม่ของโลก เรารับรู้ว่าคนในยุคถัดไปจะเป็นอย่างไร มีแนวโน้มความชอบและพฤติกรรมการใช้ชีวิตอย่างไร เราก็จะสามารถผลิตสินค้าหรือออกแบบบริการได้ตรงกับความต้องการของพวกเขา ซึ่งนั่นทำให้การทำธุรกิจของเราเป็นไปได้ด้วยดี กลุ่ม Yuccie นั้นเป็นกลุ่มคนที่เติบโตมาในยุคของโลกดิจิตอลไอทีที่เฟื่องฟู จึงทำให้ลักษณะของคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ใช้ชีวิตผูกติดอยู่กับอินเตอร์เน็ตและโซเชียลมีเดีย กลุ่มคน Yuccie จะชอบการอัพเดตเรื่องราวผ่าน Facebook และ Instagram รวมถึงโชเชียลอื่นๆ หากจะกล่าวว่าคนกลุ่มนี้ใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับหน้าจออุปกรณ์ไอทีต่างๆก็คงได้ ด้วยการรับอิทธิพลจากโลกอินเตอร์เน็ตที่รวดเร็ว คนกลุ่มนี้จึงต้องการอะไรที่รวดเร็วสั่งปุ๊บได้ปั๊บ wifi คือสิ่งยึดเหนี่ยว หากไม่มีก็แทบจะทำอะไรไม่ได้ พวกเขาจะกระหายในข้อมูลและที่สำคัญไม่ชอบรอ มีการสำรวจมาว่าพฤติกรรมการท่องอินเตอร์เน็ตของคนกลุ่มYuccie หากหน้าเว็บไซต์มีการประมวลผลล่าช้าไปแค่ 2 วินาทีเท่านั้น 87 % ของคนกลุ่มนี้พร้อมคลิกออกจากหน้าเว็บนั้นทันที คือพวกเขาจะไม่ชอบการรอ ในการดาวน์โหลดหรือดูคลิปวิดีโอ หากการโหลดช้าภาพไม่เล่นทันทีหรือเล่นต่อเนื่อง 81 % จะยกเลิกการดาวน์โหลดและข้ามคลิปวีดีโอนั้นไปเลย นั่นเท่ากับว่าหากเกิดความล่าช้าบนอินเทอร์เน็ตเพียงแค่ 1 วินาที ก็มีผลกับคนกลุ่มนี้แล้ว

พฤติกรรมการบริโภคที่น่าสนใจของ Yuccie

     ข้ามมาดูเรื่องไลฟ์สไตล์อื่นๆของคนกลุ่ม Yuccie กันบ้าง อย่างเรื่องการรับประทานอาหาร  กลุ่ม Yuccie จะชอบรับปรานอาหารนอกบ้าน และไม่ใช่ว่าจะไปรับประทานเฉย ๆ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ต้องถ่ายรูปอาหาร ถ่ายรูปบรรยากาศและอัพ status ลงโซเชียลด้วย ส่วนพฤติกรรมการบริโภคด้านอื่นๆก็มีอะไรน่าสนใจไม่แพ้กัน อย่างเรื่องของการตอบสนองต่อแบรนด์ คนกลุ่มนี้จะมีการตอบสนองต่อแบรนด์ที่แตกต่างกันไป เพราะโดยพื้นฐานแล้วคนกลุ่มนี้จะเติบโตมาจากครอบครัวของชนชั้นกลาง ซึ่งจะได้รับการปลูกฝังและอิทธิพลทางความคิดจากคนรุ่นก่อนมาส่วนหนึ่งแต่พวกเขาก็จะมีความคิดของตัวเองอีกส่วนหนึ่งทำให้การพิจารณาสินค้าและบริการมีความละเอียดขึ้นกว่าคนรุ่นก่อนที่เชื่อถือในแบรนด์ เขามีความเชื่อถือในแบรนด์ดีๆแต่ทั้งนี้ก็มีทัศนคติในเชิงบวกกับแบรนด์ใหม่ๆที่มีคุณภาพด้วยเช่นกัน เขาจะไม่ยึดติดกับแบรนด์เดียว จะยึดเอาแบรนด์ที่ตอบโจทย์ความเป็นตัวของเขา แบรนด์ที่แสดงความเป็นตัวของเขาออกมาได้ และเขาจะกล้าวิพากษ์วิจารณ์แบรนด์ต่างๆอย่างตรงไปตรงมา ซื่อตรงกับความรู้สึกของตนเองมากกว่าที่จะซื่อตรงกับแบรนด์ หากเขารู้สึกไม่พอใจกับสิ่งใดในแบรนด์นั้นๆ เขาก็จะวิจารณ์และมีการบอกต่อทันที

เครดิตภาพบางส่วนจาก: Google