‘Instagram’ แอปพลิเคชันแชร์รูปภาพยอดฮิต ก่อตั้งมาโดยคนมีวิสัยทัศน์ 2 คน แต่แล้วในที่สุดทั้ง 2 คนก็ต้องประกาศลาออกจากบริษัทตนเอง เพราะทนกับสภาพที่ถูกบีบคั้นจาก Facebook ไม่ได้อีกต่อไป
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า Instagram อยู่ใต้การบริหารงานและพัฒนาของทาง Facebook มาหลายปีแล้ว แต่เดิมทีนั่นบริษัท Instagram ถูกสร้างและก่อตั้งขึ้นโดย เควิน ซิสตอรม และ ไมเคิล ครีเกอร์ เมื่อปี 2010 เขาทั้ง 2 นี้เป็นผู้ที่ทำให้แอปพลิเคชันแชร์รูปภาพ Instagram นี้เป็นที่ฮอตฮิตจนผู้ใช้งานมากกว่า 1,000 ล้านคนทั่วโลก แต่แล้วมาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก แห่ง Facebook ก็ขอเข้ามาควบรวมกิจการของ Instagram นั่นทำให้ Instagram ต้องสูญเสียความเป็นตัวเองไปในหลายอย่าง แต่ก็ต้องยอมรับว่า Facebook ก็พัฒนา Instagram ให้มีศักยภาพสูงขึ้นจริงๆ
แต่แล้วในที่สุด เควิน ซิสตอรม และ ไมเคิล ครีเกอร์ ก็รู้สึกว่าการที่ต้องทนอยู่ภายใต้แนวคิดของ Facebook ตลอดเวลานั้น มันเป็นการ ‘ฝืนทนอยู่’ มากกว่าการอยู่เพื่อ ‘ทำสิ่งที่รัก’ ทั้งคู่จึงตัดสินใจร่วมกันที่จะประกาศลาออกจากบริษัท Instagram ที่ทั้งสองร่วมกันสร้างมาด้วยกัน โดยที่ทั้งคู่ได้กล่าวสรุปร่วมกันในการแถลงประกาศลาออกครั้งนี้ว่า
“การสร้างสรรค์สิ่งใหม่นั้นได้เรียกร้องให้เรากลับถอยหลังไปหนึ่งก้าว เพื่อทำความเข้าใจว่าอะไรคือสิ่งที่จุดประกายเรา และเป็นสิ่งที่ลงตัวกับสิ่งที่โลกต้องการ และนั้นคือแผนการที่เราจะทำ…เราจะออกสำรวจและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆอีกครั้ง”
ทางด้านมาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก เองก็ออกมาให้ความเห็นในเรื่องนี้ในทัศนะของตนเองว่า
เควินและไมเคิลเป็นผู้นำที่มีความโดดเด่น ต้องบอกว่า Instagram มีวันนี้ได้ เพราะคนทั้ง 2 ส่วนตัวผมเอง เมื่อได้ร่วมงานกับคนทั้ง 2 ก็ได้ซึมซับและเรียนรู้อะไรดี ๆ จากเขาทั้งคู่มากมาย ก็ต้องรอดูต่อไปว่า พวกเขาจะสร้างสรรค์อะไรใหม่ ๆ ให้กับโลก
ถ้าพิจารณาจากคำกล่าว ของทั้งสองฝั่งนั้นก็ดูเหมือนจะจบสวย ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว สื่อต่างประเทศได้ขุดคุ้ย เรื่องราวของทั้งสองค่ายโซเชียลมีเดีย ก็พบว่า ทั้ง Instagram และ Facebook ได้มีความบาดหมางกันในเรื่องธุรกิจมาตั้งแต่ ปี 2012 ซึ่งเป็นปีที่ Facebook เข้าซื้อกิจการ Instagram ในมูลค่ากว่า 715 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สื่อต่างประเทศรายงานว่าหลังจากนั้น Instagram ก็ไม่ได้กลายเป็นของ เควิน ซิสตอรม และ ไมเคิล ครีเกอร์ อีกเลย นั่นจึงนำมาสู่การลาออกของทั้งสองคนในครั้งนี้