คุณจะรู้สึกอย่างไรถ้าคุณเข้าไปที่ร้านอาหารสักแห่ง สั่งอาหารอย่างที่คุณต้องการไปแล้ว แต่พอพนักงานในร้านนำมาเสิร์ฟให้จริงๆกลับเป็นอีกเมนูที่คุณไม่ได้สั่ง ครั้งแรกก็อาจจะพอให้อภัย แต่ถ้าครั้งที่ 2 มีอีกก็คงต้องมีเคืองมีโกรธกันบ้างแน่นอน แต่เดี๋ยวก่อน…ถ้าคุณไปอยู่ในร้านอาหารร้านนี้ที่ประเทศญี่ปุ่น เชื่อว่าคุณจะโกรธพนักงานในร้านไม่ลงเลยทีเดียว

      ที่ประเทศญี่ปุ่นร้านอาหารที่ชื่อว่า Chuumon Wo Machigaeru Ryouriten (注文をまちがえる料理店) หรือ The Restaurant that Messes up Orders แปลแรกๆก็งงไม่รู้จะแปลอย่างไรให้สวย ก็เอาเป็นว่า หากรวมความหมายเป็นไทยแล้วก็คือ “ร้านอาหารที่คุณจะไม่ได้อาหารที่สั่ง” ประมาณนั้น หรือ ร้านอาหารที่สั่งอย่างได้อีกอย่าง ร้านนี้อยู่ในย่านโทโยสุของกรุงโตเกียว

     แค่เห็นชื่อร้านคุณก็คงว่ามันแปลกๆแล้วใช่ไหมล่ะ ใครจะไปกินในเมื่อรู้แล้วว่าสั่งไปก็ไม่ได้อาหารที่สั่ง เอ๊ะ…เป็นกลยุทธ์การตลาดอันล้ำลึกอะไรอีกหรือเปล่านะ… ในความเป็นจริงไม่ใช่อย่างนั้นเลย อันที่จริงแล้วนี่คือไอเดียสร้างสรรค์สุดบรรเจิดของมูลนิธิ Maggie’s Tokyo ที่ต้องการเน้นย้ำให้คนญี่ปุ่นได้ตระหนักและกลับมาให้ความสำคัญกับผู้ป่วยที่เป็นอัลไซเมอร์ โดยเชฟที่มาปรุงอาหารให้กับร้านอาหารแห่งนี้ไม่ใช่เชฟกะโหลกกะลาเฮฮาปาจิงโกะทั่วไป แต่เป็นเชฟมืออาชีพมือฉกาจในด้านอาหารตัวจริงเลยทีเดียว ในด้านการบริหารจัดการร้านก็จะเป็นนักออกแบบสื่อโทรทัศน์และโฆษณามืออาชีพ ซึ่งทั้งสองส่วนนี้ล้วนเป็นอาสาสมัครทั้งหมดเลย แต่ไฮไลท์ก็คือ พนักงานรับออเดอร์และพนักงานเสิร์ฟของร้านที่จะเป็นผู้ที่มีภาวะความจำเสื่อมและอัลไซเมอร์ทั้งหมด

     คุณอาจจะแปลกใจว่าแล้วแบบนี้จะมีลูกค้าหรือ ? แน่นอนว่าถ้าไม่มีการพูดคุยประชาสัมพันธ์กันก่อนคงไม่มีใครเข้าร้านแน่นอน โดยอาสาสมัครที่รับหน้าที่บริหารจัดการดูแลร้านจะมีการแจ้งกับลูกค้าก่อนเข้าไปที่ร้านทุกครั้ง ว่าการบริการข้างไหนจะเป็นอย่างไร จะเกิดอะไรขึ้นด้านในบ้าง ซึ่งทางลูกค้าเองก็กลับมองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะนอกจากจะได้เรียนรู้สภาพที่เป็นจริงของผู้ป่วยความจำเสื่อมและอัลไซเมอร์แล้ว ยังได้ความแปลกใหม่ในการรับประทานอาหารด้วย เพราะก็ต้องลุ้นอยู่เหมือนกันว่า เมนูที่สั่งไปจริงๆกลับสิ่งที่ตนเองจะได้กินนั้นจะตรงกันไหม เป็นการกินที่น่าตื่นเต้นที่สุดเลยก็ว่าได้ แบบนี้ถ้าเป็นคุณก็คงจะโกรธพนักงานไม่ลงจริงๆใช่ไหม

     ร้านอาหารร้านนี้ไม่ได้เปิดตลอดเป็นเพียงโปรเจคของมูลนิธิ Maggie’s Tokyo ที่มีการทดลองเพียง 3 วันเท่านั้นคือ ตั้งแต่วันที่ 2-4 มิถุนายน 2560 แต่ในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้โปรเจนี้ก็จะเริ่มต้นอีกครั้ง เพราะในวันที่ 21กันยายน จะเป็นวันอัลไซเมอร์โลก

      นับตั้งแต่มีการค้บพบโรคอัลไซเมอร์ โดยจิตแพทย์ชาวเยอรมัน Alois Alzheimer มาจนถึงตอนนี้ก็เวลาล่วงเลยมา 116 ปีเข้าให้แล้ว โรคนี้ก็ยังเป็นโรคที่ไม่มีทางรักษา แม้ว่าเทคโนโลยีการแพทย์จะก้าวหน้าไปมากก็ตาม และเทรนด์การดูแลสุขภาพของผู้คนบนโลกก็เติบโต แต่ความรู้ความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจในผู้ป่วยความจำเสื่อมและอัลไซเมอร์ของผู้คนในสังคมโลกนั้นยังถือว่าน้อยมาก แม้จะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การเกิดขึ้นของ The Restaurant that Messes up Orders ในญี่ปุ่นก็เป็นตัวอย่างต้นแบบที่ดีที่จะกระตุ้นให้ผู้คนเข้าใจพวกเขาเหล่านั้นมากขึ้น และเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยเหล่านั้นได้มีพื้นที่ยืนในสังคมดังเช่นพวกเราทุกคน อย่าลืมว่าครั้งหนึ่งพวกเขาเหล่านั้นก็เคยเป็นเหมือนพวกเราทุกคนคือเป็นคนปกติ และในวันหนึ่งข้างหน้า เราทุกคนก็ล้วนมีโอกาสที่จะเป็นเหมือนผู้ป่วยเหล่านั้นก็ได้ สังคมโลกยุคใหม่ควรอยู่บนพื้นฐานความเข้าใจและไร้การแบ่งแยก

 

เครดิตข้อมูลจาก:boredpanda.com

เครดิตภาพจาก: news.yahoo.co.jp