นโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติจำนวนมาก เพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น นักลงทุนจากต่างประเทศทั้งจีน ญี่ปุ่น เกาหลี และสิงคโปร์ก็ขานรับกันอย่างเต็มที่ ล่าสุดยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจากจีนกลุ่มอาลีบาบา เตรียมลงทุนใช้พื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเม้นท์ (WHA) ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อสร้าง Smart Digital Hub
พื้นที่ WHA ในนิคมอุตสาหกรรม จ.ฉะเชิงเทรา ถือเป็นทำเลทองที่นักลงทุนใหญ่จากต่างชาติต่างหมายตา ซึ่งตอนนี้ทาง นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้มีการเจรจากับนักลงทุนในธุรกิจอีคอมเมิร์ซระดับโลกหลายราย เพื่อเปลี่ยนพื้นที่นี้เป็นเขตส่งเสริมธุรกิจอีคอมเมิร์ซและสมาร์ทโลจิสติกส์ ซึ่งตอนนี้ได้ข้อตกลงทำสัญญาฉบับแรกไปแล้วกับกลุ่มทุนจีนอย่างเจดีดอทคอม และล่าสุดกลุ่มอาลีบาบาก็เข้ามาเจรจาด้วย ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการหารือ
นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยผลสำรวจการใช้ที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมปี 2560 ขายได้ 3,300 ไร่ มูลค่าลงทุนรวม 83,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ EEC 80% นั่นทำให้แนวโน้มในปี 61 นี้ทางการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) วางเป้าปิดการขายที่ดิน 3,500 ไร่ มูลค่าลงทุน 90,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% โดยไตรมาส 1/61 สามารถปิดการขายแล้ว 800 ไร่ มูลค่าซื้อขาย 20,000 ล้านบาท
จะเห็นได้ว่าอนาคตของนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) น่าจะไปได้สวยทีเดียว เพราะนี่แค่เริ่มต้นนักลงทุนก็ให้ความสนใจในเรื่องพื้นที่กันมากมายเลยทันที ทางด้านนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมได้เผยว่าขณะนี้ ทางกระทรวงอุตสาหกรรมจะนำแผนการลงทุนใน EEC ทุกโครงการไปไปโรดโชว์ในประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส โดยนายกรัฐมนตรีและคณะมีโปรแกรมเดินทางระหว่างวันที่ 20-25 มิ.ย.นี้ มีกำหนดการพบกับนักลงทุนกว่า 100 ราย เพื่อให้นักลงทุนต่างชาติและคณะทูตต่าง ๆ มีความเข้าใจในแผนการลงทุนมากยิ่งขึ้น ซึ่งขณะนี้คณะทูตแต่ละประเทศมีความกังวลถึงความไม่ต่อเนื่อง EEC เนื่องจากไทยจะมีการเลือกตั้งในเดือน ก.พ. 2562 แต่รัฐบาลไทยยืนยันว่าแม้ไทยกำลังเข้าสู่การเลือกตั้ง แต่โครงการจะเดินไปตามแผนงานไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง