ตลาดธุรกิจอีคอมเมิร์ซแข่งกันดุเดือดมากขึ้น Lazada – Shopee ผลประกอบการติดลบ แต่ขณะนี้ที่ 24 Shopping ของ ซีพี ออลล์ สวนกระแสกำไรดี ส่วน 11 street ขาดทุนยับเป็นพันล้านจนต้องขายหุ้นให้ทายาทเนสกาแฟ

ภาพรวมของตลาดธุรกิจอีคอมเมิร์ซในขณะนี้ มีมูลค่าสูงถึง 2.8 ล้านล้านและเติบโตถึงปีละ 20-25% นับว่าเป็นตลาดที่มีการแข่งขันกันสูงและมีการปรับตัวไปตามแนวโน้มเทรนด์ของผู้บริโภค ซึ่งยิ่งผู้บริโภคมีแนวโน้มว่าจะสนใจในการช้อปปิ้งออนไลน์กันมากขึ้น ยิ่งทำให้ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซแบรนด์ดังต่างๆตื่นตัว และพร้อมที่จะสู้ในสนามอย่างแข็งขัน แม้ว่าหลายเจ้าจะขาดทุนก็ยังไม่ยอมถอย

การเข้าซื้อหุ้น 11 street ของทายาทเนสกาแฟแรงกระเพื่อมอีกระลอกของอีคอมเมิร์ซ

56000000155970111 street อีคอมเมิร์ซสัญชาติเกาหลีใต้ เป็นของบริษัทเอสเค เทเลคอม ยักษ์โทรคมนาคมเข้ามาทำตลาดในไทยได้ปีกว่า และทุ่มงบฯเฉียด 1,000 ล้านบาท ทำการตลาดอย่างหนักทั้งปูพรมโฆษณา ใช้พรีเซ็นเตอร์คนดังทั้งเกาหลีทั้งไทยพยายามผลักดันแต่อย่างไรก็ดูจะไม่เป็นผล ขาดทุนต่อเนื่องมาเรื่อยๆ ล่าสุดไม่อาจต่อสู้ในสนามแข่งขันธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่เกมเข้มข้นมากๆได้ จึงขายกิจการให้ ‘นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ’ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ ทายาทเนสกาแฟ ซึ่งการเข้าซื้อ 11 street ครั้งนี้ของนายเฉลิมชัย เป็นการซื้อในนามส่วนตัวและถือหุ้น 100% ซึ่งโอนหุ้นเรียบร้อยแล้ว และนายเฉลิมชัยได้มีแนวทางจะปรับกลยุทธ์ที่จะขึ้นมาสู่ในเวทีอีคอมเมิร์ซนี้อีกครั้ง โดยจะปรับรูปแบบใหม่ทั้งหมดทั้งชื่อแบรนด์และโมเดลธุรกิจ ซึ่งการเข้าซื้อ 11 street ครั้งนี้สร้างแรงกระเพื่อมให้กับวงการอีคอมเมิร์ซไม่น้อยเหมือนกัน ทุกค่ายต่างจับตาการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อย่างใกล้ชิด

Lazada – Shopee ขาดทุนแดงทั้งกระดาน

Lazada-Group-600x189ด้านยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซอย่าง Lazada และแบรนด์อีคอมเมิร์ซดาวรุ่งอย่าง Shopee ดูภายนอกเหมือนจะดีแต่เมื่อเจาะเข้าไปดูข้างในแล้ว ก็กอดคอพากันขาดทุน ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลดำเนินงานของทั้ง 2 แบรนด์อีคอมเมิร์ซนี้ว่า Lazada ปี 2559 มีรายได้ 4,266 ล้านบาท ขาดทุน 2,115 ล้านบาท ปี 2560 (รอบบัญชีสิ้นสุดมีนาคม 2560) มีรายได้ 1,757 ล้านบาท ขาดทุน 568 ล้านบาท ช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนถึง 4 ครั้ง จาก 4 ล้านบาท เป็น 7,000 ล้านบาท ส่วนทางด้าน Shopee ปี 2559 มีรายได้ 56,606 บาท ขาดทุน 528 ล้านบาท ปี 2560 มีรายได้ 139 ล้านบาท ขาดทุน 1,404 ล้านบาท ทุนจดทะเบียน เป็น 50 ล้านบาท

ouqlqehbbUWที่ดูจะสวนทางกับอีคอมเมิร์ซเจ้าอื่นๆก็คือ 24 Shopping ของ ซีพี ออลล์ ที่มีกำไรทำตลาดผ่าน 3 เว็บไซต์ www.24catalog.com, www.shopat24.com และ www.amulet24.com พบว่า ปี 2559 มีรายได้ 4,641 ล้านบาท กำไร 215 ล้านบาท ปี 2560 รายได้ 5,626 ล้านบาท กำไร 305 ล้านบาท ซึ่งทาง 24 Shopping ได้เลือกใช้กลยุทธ์ผสมผสานทั้งออฟไลน์และออนไลน์ โดยดึงเอาฐานลูกค้าจากร้าน 7-11 ที่เป็นออฟไลน์เข้ามาสู่ระบบออนไลน์ จึงทำให้ฐานลูกค้าเติบโตต่อเนื่อง และตอนนี้ยังได้ขยายตลาดไปในอาเซียน โดยไปทดลองตลาดที่ลาว ซึ่งกระแสตอบรับก็ชี้ไปในทางบวกเช่นกัน

เซ็นทรัล JD ขอลงสนามสู้ในเดือนกันยายนนี้

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานกลุ่มเซ็นทรัล กล่าวถึงการร่วมทุนระหว่างเซ็นทรัล และเจดีดอทคอม เพื่อสร้างแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเว็บไซต์ JD.co.th ว่า บริษัทจะเปิดตัวเป็นทางการในเดือนกันยายนนี้ พร้อมความร่วมมือเปิดแพลตฟอร์ม อีโลจิสติกส์ในไตรมาส 4 และอีไฟแนนซ์ ในไตรมาส 1 ปี 2562 ซึ่งสิ่งที่กลุ่มเซ็นทรัลมีก็คือฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง ซึ่งอีคอมเมิร์ซหลายค่ายขาดสิ่งนี้ไป เมื่อต้องการจะสร้างฐานลูกค้าก็ต้องใส่เงินจำนวนมากลงไป แต่เซ็นทรัลมีฐานลูกค้าอยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องลงทุนหนัก นับเป็นจุดแข็งที่น่าสนใจของเซ็นทรัล ซึ่งทำให้หลายค่ายอีคอมเมิร์ซถึงกับหวั่นใจไม่น้อยเหมือนกัน

เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภครุ่นใหม่เปลี่ยนไป อีคอมเมิร์ซจึงเติบโตและมีการแข่งขันที่สูง แต่ใช่ว่าใครก็จะมาลงแข่งในสนามนี้ได้ เพราะธุรกิจอีคอมเมิร์ซคือเวทีปราบเซียนจริงๆ