ปัจจุบันเรามักพบข่าวอยู่เสมอว่าข้อมูลที่ถูกเก็บในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรือข้อมูลที่อยู่ในอุปกรณ์ไอทีต่างถูกแฮก ถูกขโมยข้อมูล บางคนถูกแฮกโซเชียลมีเดีย ซึ่งนับวันปัญหาเหล่านี้ก็จะยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีในต่างประเทศเปิดเผยว่า ที่เราถูกจารกรรมข้อมูลจากคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆได้ง่ายๆนั้น ส่วนหนึ่งก็มาจาก ชิปเซ็ต ในอุปกรณ์ต่างๆที่เราใช้งานมีช่องโหว่มากมายนั่นเอง
โดย Daniel Gruss หนึ่งในนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Graz University of Technology ที่ทำงานกับโครงการ Google Project Zero ได้ออกมาให้ข้อมูลในเรื่องนี้ว่า ชิปคอมพิวเตอร์ที่เราใช้ๆกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นชิปเซ็ตในคอมพิวเตอร์ หรือชิปเซ็ตที่ใช้กับสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์ไอทีอื่นๆก็ตาม ต่างมีจุดบกพร่อง ที่เป็นช่องโหว่ใหญ่สามารถทำให้ผู้ใช้งานถูกแฮคเกอร์ขโมยข้อมูลส่วนตัวไปได้อย่างง่ายดาย ซึ่งปัญหาเรื่องชิปคอมพิวเตอร์มีช่องโหว่ให้ถูกจารกรรมที่ถูกค้นพบนี้ นับว่าเป็นปัญหาร้ายแรงครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งของวงการไอทีเลยทีเดียว
ทีมนักวิจัยยังได้สรุปปัญหาช่องโหว่ที่เกิดขึ้นเพราะความบกพร่องของชิปคอมพิวเตอร์เป็นต้นเหตุออกมาได้ 2 ปัญหาหลักๆคือ
- ปัญหาMeltdown ความบกพร่องในส่วนนี้จะเกิดขึ้นกับชิปคอมพิวเตอร์ของบริษัท Intel ทำให้ผู้ใช้งานเสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูลส่วนตัว
- ปัญหาSpectre ความบกพร่องในส่วนนี้จะเกิดขึ้นกับชิปคอมพิวเตอร์ของบริษัท AMD(Advanced Micro Devices Inc) และ ARM( ARM Holdings)ซึ่งเป็นช่องโหว่ในด้านซอฟท์แวร์ แฮคเกอร์จะสามารถเข้าถึงซอฟท์แวร์ ในเครื่องที่ใช้ชิฟเซ็ตเหล่านี้และจะสามารถแฮกซอฟท์แวร์ที่มีอยู่ในเครื่องเพื่อให้ซอฟท์แวร์ เป็นตัวบอกข้อมูลสำคัญของผู้ใช้งานอีกทีนั่นเอง
ทีมนักวิจัยยังให้ข้อมูลอีกด้วยว่า ปัญหา Meltdown แม้จะร้ายแรงแต่ก็ส่งผลเสียในระยะสั้นๆเท่านั้น เพราะทำการแก้ไขได้ง่ายกว่า ปัญหา Spectre มาก เพราะปัญหา Spectre มีความซับซ้อนกว่า ส่งผลรุนแรงในระยาวและกระทบเป็นวงกว้าง หาทางแก้ไขได้ยากกว่า
ซึ่งชิปคอมพิวเตอร์ในแบรนด์ต่างๆที่กล่าวมา บริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งสองค่ายอย่าง Microsoft และ Apple ต่างก็ใช้ชิฟเซ็ตเหล่านี้ด้วยกันทั้งคู่ นั่นทำให้เรื่องนี้ดูจะใกล้ตัวพวกเราทุกคนมากยิ่งขึ้นเข้าไปอีก ในประเด็นปัญหาที่นักวิจัยด้านคอมพิวเตอร์ค้นพบนี้ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ก็ยังไม่มีใครออกมาให้ข้อมูลอะไรทั้งสิ้น
งานนี้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์รวมถึงอุปกรณ์ไอทีต่างๆในประเทศไทยอย่างเราก็คงแต่จะต้องนั่งทำใจกันไปก่อน เพราะพวกเราเป็นผู้บริโภคสินค้าเหล่านี้จากพวกเขาอีกที ทางแก้ไขเบื้องต้นที่พอจะทำได้ ณ ตอนนี้ก็คือ พยายามอัพเดตซอฟท์แวร์ทั้งในคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดอยู่เรื่อยๆ เพื่อจะได้เป็นการป้องกันไวรัส มัลแวร์และการขโมยข้อมูลในเบื้องต้นไปก่อนนั่นเอง
ที่มา: theguardian