ปัญหาแท็กซี่ในบ้านเรานับว่าเป็นหนึ่งปัญหาที่น่าปวดหัว พยายามแก้อย่างไรก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรที่พัฒนามากขึ้น เพราะระบบการให้บริการแท็กซี่ไทยมันฝังรากลึกมานานหลายสิบปี ก็ดูเป็นการยากที่จะแก้ไขให้จบได้เพียงเวลาไม่ช้าไม่นาน หลังจากที่เทรนด์โลกกำลังให้ความสำคัญกับ Uber และ Grab กรมการขนส่งทางบก (ขบ.)ก็เห็นทีจะอยู่นิ่งเฉยไม่ได้ จึงเตรียมเปิดแอพฯของตนเองอย่างเป็นทางการบ้างในนาม “แท็กซี่โอเค”
ปัญหาแท็กซี่ไทยปฏิเสธผู้โดยสาร แท็กซี่โกงค่ามิเตอร์เป็นปัญหาที่เราทุกคนพบเจอกันอยู่ทุกวัน ดังนั้น ผู้บริโภคอย่างเราๆท่านๆ จึงเริ่มที่จะขยับไปใช้บริการ Uber หรือ Grab ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นบริการเรียกรถซึ่งผู้ใช้บริการสบายใจที่จะเรียกใช้มากกว่า แต่อย่างว่า Uber หรือ Grab เป็นการพัฒนาจากภาคเอกชนในต่างประเทศ การจะเอาเข้ามาใช้ในระบบของประเทศไทยมันก็จะติดปัญหาข้อกฎหมายหลายอย่างที่ไม่สอดคล้องกับกฎหมายการขนส่งเดิมในบ้านเรา อย่างเรื่องของการคิดค่าโดยสาร การกำหนดอัตราค่ามิเตอร์เป็นต้น นั่นจึงทำให้กรมการขนส่งทางบกเห็นว่าได้เวลาที่จะต้องแก้ไขปัญหาอะไรสักอย่างเพื่อประชาชนเสียแล้ว
“แท็กซี่โอเค” คือคำตอบนั้น กรมการขนส่งทางบกในจัดทำแอพพลิเคชั่นขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า TAXI OK อันเป็นบริการแบบเดียวกับ Uber และ Grab ทั้งนี้ก็เพื่อจะได้แก้ปัญหาและยกระดับคุณภาพการให้บริการแท็กซี่ไทยให้มีมาตรฐานความปลอดภัยที่ผู้ใช้บริการพอใจ ทั้งนี้ใช่ว่า TAXI OK จะถูกนำมาแข่งกับ Uber และ Grabเพราะถ้าว่ากันตามจริงแล้วแข่งก็คงจะแข่งไม่ได้ เพราะ 2 แอพนั้นถูกพัฒนามาก่อนหน้านานมาก แต่ที่น่าสนใจก็คือนี่นับเป็นแอพพลิเคชั่นแรกที่ทางภาครัฐพัฒนาออกมาสู้กับเอกชน จึงเป็นเรื่องที่น่าจะต้องตามดูกันต่อไปว่าเมื่อเปิดใช้บริการอย่างเต็มระบบแล้ว ผู้ใช้บริการจะเซย์เยสหรือเซย์โน
กรมการขนส่งทางบก ได้มีการออกประกาศบังคับมาตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย.60 ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ว่าแท็กซี่ลงทะเบียนใหม่ต้องติดตั้งอุปกรณ์ส่วนควบเพื่อความปลอดภัยเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับแท็กซี่ และก็ได้ดึงเอาแท็กซี่ประมาณ 2,000 คัน มาอยู่ในสังกัดเพื่อเข้าเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ TAXI OK เพื่อให้แท็กซี่เหล่านั้นพร้อมสำหรับการให้บริการ TAXI OK แต่ก่อนหน้านั้นก็ตะกุกตะกักอยู่พอสมควร เพราะแท็กซี่ที่จะเข้าร่วมโครงการ TAXI OK ต่างร้องเรียนกันมาว่า “ทำไมพวกเขาต้องเสียเงินค่าติดตั้งอุปกรณ์ส่วนควบ เรื่องนี้ทางอธิบดีกรมการขนส่งทางบกจึงแก้ปัญหาโดยการลงนามในบันทึกความร่วมมือ (MOU) กับบริษัทใหญ่ อย่าง True AIS และ CAT เพื่อให้สิทธิพิเศษแก่แท็กซี่ที่เข้าร่วมโครงการในเรื่องอุปกรณ์ส่วนควบและค่าบริการสัญญาณอินเตอร์เน็ตในลักษณะการเช่าซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นไปเพื่อจูงใจให้แท็กซี่มาเข้าร่วมโครงการ TAXI OK นั่นเอง
“แท็กซี่โอเค” จะเปิดให้บริการในวันที่ 25 ม.ค. 61 นี้แล้ว ถ้าอยากรู้ว่าแท็กซี่คันไหนเข้าร่วมโครงการ TAXI OK บ้างก็สังเกตไม่ยาก ก็ให้สังเกตป้ายใส่ด้านหน้ารถ คำว่า “ว่าง” จะเป็นสีเขียว ก็เตรียมเรียกใช้บริการกันได้เลย และไม่ต้องไปยืนโบกให้เมื่อย คุณสามารถเรียกผ่านแอพพลิเคชั่นบนมือถือได้ทันที พวกเราก็คงต้องลุ้นกันล่ะ ว่าแท็กซี่โอเคจะโอเคสมชื่อกันหรือเปล่า