ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีที่มีชื่อว่า Blockchain กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก เพราะว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่รวมเอาข้อมูลต่างๆมาไว้ในศูนย์กลางเดียว และทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลนี้ได้ การทำเช่นนี้ก็เพื่อการตรวจสอบได้ง่ายนั่นเอง โดยล่าสุดทาง IBM ก็ได้นำเทคโนโลยี Blockchain นี้ มาเข้าร่วมใช้งานกับซูเปอร์มาร์เก็ตดัง ๆ ชั้นนำหลายแห่งในการตรวจสอบที่มาที่ไปของอาหารและเป็นการป้องกันอาหารที่เป็นพิษ
ขณะนี้ผู้ให้บริการด้านอาหารหรือ food supply จากทั่วโลก กำลังร่วมมือกันใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Blockchain ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาจากโครงการ Hyperledger ของ IBM มาใช้งานในร้านค้าเพื่อติดตามเส้นทางเดินของวัตถุดิบอาหารสด และอาหารอื่น ๆ ตั้งแต่การเก็บจากฟาร์ม มาถึงการผ่านกระบวนการต่างๆ จนส่งมาถึงซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อพร้อมจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภค เทคโนโลยี Blockchain จะรวบรวมข้อมูลลักษณะเดียวกัน ไว้ในศูนย์กลางข้อมูล โดยข้อมูลทั้งหมดที่เก็บไว้จะเป็นสาธารณะที่ทุกคนใน Blockchain สามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด ซึ่งระบบดังกล่าวในตอนนี้กำลังเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆเนื่องจากมีความปลอดภัยสูงและก็ตรวจสอบได้จริง
โดยตอนนี้บริษัท IT ยักษ์ใหญ่อย่าง IBM ได้เซ็นสัญญาร่วมมือกับบริษัทอาหารชั้นนำอย่าง Unilever, Walmart, Kroger, Nestlé เพื่อใช้เทคโนโลยี Blockchain หรือ IBM Blockchain Platform ในการตรวจสอบและป้องกันอาหารที่มีพิษ รวมถึงสามารถกำจัดได้อย่างทันท่วงที ซึ่งBlockchain ที่ IBM สร้างขึ้นมานี้สามารถใช้งานได้จริงปลอดภัยและก็เป็นไปตามข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์อีกด้วย
การทำงานของเทคโนโลยีที่เรียกว่า Blockchain นี้ จะช่วยให้ซูเปอร์มาร์เก็ตสามารถตรวจสอบอาหารตั้งแต่แหล่งที่มาของการผลิต ตรวจจับอาหารที่เป็นพิษ และสามารถส่งข้อมูลไปยังส่วนอื่น ๆ ได้อีกด้วย นอกจากจะป้องกันการสูญเสียรายได้ของผู้ประกอบการร้านค้า ที่จะสามารถหยิบสินค้าที่เป็นพิษในคลังสินค้าทิ้งไปก่อนที่จะวางจำหน่ายได้แล้ว ยังช่วยปกป้องผู้บริโภคจากอาหารที่มีสารปนเปื้อนและเป็นพิษได้อีกด้วย(food safety)ปัจจุบันนี้ IBM Blockchain Platform ที่เป็นระบบทดสอบได้มีการใช้งานแล้วในสหรัฐและจีน
ทางIBMเปิดเผยว่าต้นทุนในการเรียกสินค้าที่เป็นพิษคืนนั้นจะส่งผลเสียต่อผู้ผลิตมากที่สุด และขั้นตอนทั่วไปในการตรวจสอบอาหารที่เป็นพิษนั้นก็ใช้เวลานานมาก ดังนั้น โครงการทำให้อาหารปลอดภัยด้วย Blockchain นั้น เป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะว่าจะช่วยสร้างความโปร่งใสให้กับระบบอาหาร และจะช่วยให้บริษัท สามารถเรียกอาหารเป็นพิษกลับคืนมาได้อย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพและก็แก้ไขได้อย่างตรงจุด ซึ่งขณะนี้มีการประมาณการณ์ว่า มีการสูญเสียรายได้ที่เกิดขึ้นจากการเรียกคืนอาหารของบริษัทผู้ค้าต่างๆมากถึง สี่พันสี่ร้อยล้านดอลลาร์ ถึง เก้าหมื่นเก้าพันสองร้อยล้านดอลลาร์เลยทีเดียว
เครดิตข้อมูลและภาพจาก: 03.ibm.com
