การพาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบินอย่างปลอดภัย ขั้นตอนและคำแนะนำ

ทริคการพาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบิน เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเดินทาง

การเดินทางทางอากาศกับสัตว์เลี้ยงไม่ใช่เรื่องยาก แต่การเตรียมตัวให้พร้อมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยสำหรับทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยง บทความนี้จะแนะนำวิธีการพาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบินอย่างถูกต้องและปลอดภัย

1. ข้อกำหนดในการนำสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบิน (สำหรับภายในประเทศ)

การนำสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบินภายในประเทศมีข้อกำหนดที่ต้องปฏิบัติตาม ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามสายการบินแต่ละแห่ง โดยทั่วไปแล้ว จะมีข้อบังคับที่คำนึงถึงความปลอดภัยและความสะดวกสบายของทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยง ข้อกำหนดที่สำคัญมีดังนี้:

1.1 ขนาดและน้ำหนักของสัตว์เลี้ยง

  • สัตว์เลี้ยงที่จะเดินทางในห้องโดยสาร (Pet in Cabin) จะต้องมีขนาดและน้ำหนักที่เหมาะสม โดยสายการบินส่วนใหญ่จะอนุญาตให้สัตว์เลี้ยงที่มีน้ำหนักไม่เกิน 5-8 กิโลกรัมในกรงพกพา (รวมกรงและสัตว์เลี้ยง)
  • สัตว์เลี้ยงที่มีขนาดใหญ่จะต้องถูกขนส่งในห้องเก็บสัมภาระ โดยจะใช้บริการ Checkin Baggage (AVIH)

1.2 กรงและอุปกรณ์ขนส่ง

  • กรงที่ใช้ในการขนส่งสัตว์เลี้ยงต้องเป็นกรงที่สามารถปิดสนิทและมีการระบายอากาศที่ดี กรงต้องมีขนาดพอเหมาะให้สัตว์เลี้ยงสามารถยืน เดิน และหมุนตัวได้
  • สายการบินบางแห่งอาจมีข้อกำหนดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัสดุของกรง เช่น ต้องทำจากพลาสติกแข็ง หรือวัสดุที่ทนทาน เพื่อป้องกันการบาดเจ็บของสัตว์ในระหว่างการเดินทาง
  • กรงต้องมีประตูที่ล็อกได้แน่นหนา และมีพื้นที่สำหรับใส่แผ่นรองซับปัสสาวะหรือผ้าเพื่อให้สัตว์เลี้ยงรู้สึกสะดวกสบาย

1.3 การจองและค่าธรรมเนียม

  • เจ้าของสัตว์เลี้ยงต้องทำการจองที่นั่งหรือที่สำหรับสัตว์เลี้ยงล่วงหน้า เนื่องจากสายการบินมักมีการจำกัดจำนวนสัตว์เลี้ยงที่สามารถเดินทางในแต่ละเที่ยวบิน
  • ค่าธรรมเนียมในการขนส่งสัตว์เลี้ยงจะแตกต่างกันไปตามสายการบิน แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีค่าธรรมเนียมสำหรับการพาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบินในห้องโดยสารหรือในห้องเก็บสัมภาระ

1.4 เอกสารที่ต้องเตรียม

  • บางสายการบินอาจขอให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงจัดเตรียมเอกสารเกี่ยวกับสุขภาพของสัตว์เลี้ยง เช่น ใบรับรองจากสัตวแพทย์ที่ยืนยันว่าสัตว์เลี้ยงแข็งแรงและไม่มีโรคติดต่อ
  • เอกสารการฉีดวัคซีน หรือบันทึกการรักษาสุขภาพอาจจำเป็นในบางกรณี โดยเฉพาะเมื่อเดินทางไปยังสถานที่ที่มีข้อบังคับเกี่ยวกับการควบคุมโรค

1.5 ข้อกำหนดด้านความปลอดภัย

  • สายการบินจะมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการติดตั้งกรงในเครื่องบิน เช่น ต้องวางกรงไว้ใต้ที่นั่งของเจ้าของหรือในพื้นที่เฉพาะที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับสัตว์เลี้ยง
  • สัตว์เลี้ยงไม่สามารถออกจากกรงในระหว่างการบิน และไม่สามารถอยู่ในบริเวณที่นั่งของเจ้าของได้หากกรงไม่สามารถเก็บไว้ได้ภายในที่นั่ง

2. รายละเอียดของกรงที่ใช้พาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบิน

การเลือกกรงที่เหมาะสมสำหรับการพาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบินเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะกรงไม่เพียงแต่ต้องให้สัตว์เลี้ยงมีความสะดวกสบายในระหว่างการเดินทาง แต่ยังต้องปลอดภัยและข้อกำหนดของสายการบินด้วย กรงที่ใช้ในการขนส่งสัตว์เลี้ยงจะต้องมีลักษณะและคุณสมบัติต่าง ๆ ดังนี้:

2.1 ขนาดของกรง

  • กรงที่ใช้ขนส่งสัตว์เลี้ยงต้องมีขนาดพอเหมาะให้สัตว์สามารถยืน เดิน และหมุนตัวได้สะดวก โดยทั่วไปแล้ว สายการบินจะมีข้อกำหนดที่ชัดเจนเกี่ยวกับขนาดของกรง ซึ่งส่วนใหญ่จะให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในกรงที่มีขนาดไม่เกิน 45 x 30 x 23 ซม. สำหรับสัตว์เลี้ยงขนาดเล็ก (ในกรณีที่สัตว์เลี้ยงต้องอยู่ในห้องโดยสาร) และกรงสำหรับสัตว์ขนาดใหญ่จะต้องมีขนาดที่เหมาะสมเพื่อให้สัตว์สามารถเคลื่อนไหวได้ภายในกรง
  • กรงที่มีขนาดใหญ่เกินไปหรือเล็กเกินไปอาจทำให้สัตว์รู้สึกไม่สบายหรือขาดความปลอดภัย ดังนั้น ขนาดที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ

2.2 วัสดุของกรง

  • พลาสติกแข็งหรือวัสดุทนทาน: กรงส่วนใหญ่จะทำจากพลาสติกแข็งที่มีความทนทาน เพื่อป้องกันไม่ให้กรงแตกหักในระหว่างการขนส่งหรือการเคลื่อนย้าย
  • ตาข่ายหรือพลาสติกโปร่ง: กรงจะต้องมีการระบายอากาศที่ดี โดยมีช่องระบายอากาศที่เพียงพอเพื่อให้สัตว์เลี้ยงหายใจสะดวก ช่องระบายอากาศสามารถเป็นตาข่ายหรือพลาสติกโปร่งที่ช่วยให้การไหลเวียนอากาศในกรงดีขึ้น
  • กรงเหล็ก: ในบางกรณี กรงที่ทำจากเหล็กก็เป็นตัวเลือกที่ดี โดยเฉพาะสำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีขนาดใหญ่หรือแข็งแรง

2.3 การระบายอากาศ

  • กรงที่ใช้ในการเดินทางทางอากาศต้องมีช่องระบายอากาศที่เพียงพอ โดยส่วนใหญ่จะมีช่องระบายอากาศทั้งด้านข้างและด้านหลังของกรง เพื่อให้สัตว์เลี้ยงสามารถหายใจได้สะดวกและไม่รู้สึกอึดอัด
  • ช่องระบายอากาศควรมีขนาดที่เหมาะสมและกระจายทั่วทั้งกรงเพื่อไม่ให้เกิดการสะสมความร้อนภายในกรง

2.4 ประตูและระบบล็อก

  • ประตูกรง: กรงต้องมีประตูที่เปิด-ปิดได้ง่ายและสามารถล็อกได้อย่างมั่นคง โดยปกติจะมีประตูที่ทำจากตะแกรงเหล็กหรือพลาสติกที่สามารถล็อกได้ด้วยระบบสกรูหรือกลอน
  • ระบบล็อก: ระบบล็อกต้องแข็งแรงและมั่นคง เพื่อป้องกันไม่ให้ประตูกรงเปิดออกในระหว่างการเดินทาง และเพื่อให้สัตว์เลี้ยงปลอดภัยจากการหลุดออกมา

2.5 การรองรับภายในกรง

  • แผ่นรองพื้น: กรงสำหรับสัตว์เลี้ยงจะต้องมีพื้นกรงที่เรียบและสะอาด พร้อมแผ่นรองซับหรือผ้าให้สัตว์เลี้ยงรู้สึกสบายและสะอาดในระหว่างการเดินทาง แผ่นรองซับช่วยดูดซับน้ำหรือปัสสาวะของสัตว์เลี้ยงและทำให้กรงสะอาด
  • การรองรับสัตว์เลี้ยง: หากสัตว์เลี้ยงมีอาการเครียดหรือไม่สบายในระหว่างการเดินทาง การใช้ผ้าหรืออุปกรณ์เสริมที่นุ่มนวลจะช่วยให้สัตว์รู้สึกสบายขึ้น

2.6 ข้อกำหนดของสายการบิน

  • สายการบินแต่ละแห่งอาจมีข้อกำหนดเกี่ยวกับกรงที่ใช้ขนส่งสัตว์เลี้ยงที่แตกต่างกัน เช่น ขนาดสูงสุดของกรงที่สามารถนำขึ้นเครื่องได้ และประเภทวัสดุที่ได้รับอนุญาต ดังนั้น การตรวจสอบข้อกำหนดของสายการบินล่วงหน้าจะช่วยให้มั่นใจได้ว่ากรงที่เลือกใช้เป็นไปตามข้อกำหนดและไม่เกิดปัญหาตอนเช็คอิน

2.7 ความสะดวกในการจัดการ

  • กรงที่ใช้ในการเดินทางควรมีลักษณะที่สะดวกในการจัดการ เช่น มือจับที่แข็งแรงสำหรับเจ้าของในการยกกรง หรือการออกแบบที่สามารถพับเก็บได้ในบางกรณีเพื่อความสะดวกในการจัดเก็บเมื่อไม่ได้ใช้งาน

การเลือกกรงที่เหมาะสมกับสัตว์เลี้ยงของคุณเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างปลอดภัยและสะดวกสบายสำหรับสัตว์เลี้ยงและเจ้าของ

3. ทาสหมาแมวอย่างเราต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง?

การเดินทางกับสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะกับสุนัขหรือแมว จำเป็นต้องมีการเตรียมตัวอย่างดีเพื่อให้การเดินทางทั้งสำหรับเจ้าของและสัตว์เลี้ยงเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยลดความเครียดและความไม่สะดวกที่อาจเกิดขึ้นทั้งในระหว่างการเดินทางและหลังการเดินทาง ดังนั้น นี่คือสิ่งที่ทาสหมาแมวควรเตรียมตัว:

3.1 ตรวจสอบข้อกำหนดของสายการบิน

ก่อนที่จะเริ่มต้นการเดินทางกับสัตว์เลี้ยง เจ้าของควรตรวจสอบข้อกำหนดจากสายการบินล่วงหน้า เนื่องจากแต่ละสายการบินจะมีกฎเกณฑ์ที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการขนส่งสัตว์เลี้ยง เช่น ขนาดกรงที่สามารถใช้ได้, น้ำหนักที่อนุญาต, และค่าใช้จ่ายสำหรับการขนส่งสัตว์เลี้ยง

  • บางสายการบินอาจมีการจำกัดจำนวนสัตว์เลี้ยงที่สามารถเดินทางในแต่ละเที่ยวบิน
  • ต้องจองล่วงหน้าสำหรับการขนส่งสัตว์เลี้ยงเพื่อให้แน่ใจว่าจะมีที่ว่างสำหรับสัตว์เลี้ยงของคุณ
  • ตรวจสอบข้อกำหนดเรื่องเอกสารการตรวจสุขภาพหรือวัคซีนของสัตว์เลี้ยง

3.2 พาสัตว์เลี้ยงไปตรวจสุขภาพ

สัตว์เลี้ยงต้องมีสภาพร่างกายที่แข็งแรงก่อนการเดินทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าต้องเดินทางทางอากาศ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของสัตว์ได้ การไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพก่อนการเดินทางเป็นสิ่งสำคัญ

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสัตว์เลี้ยงได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน และไม่มีโรคติดต่อ
  • หากสัตว์เลี้ยงมีอาการป่วยหรือมีความเสี่ยงในการเดินทาง ควรปรึกษาสัตวแพทย์เกี่ยวกับการเตรียมตัวเดินทางหรือพิจารณาเลื่อนการเดินทาง

3.3 ฝึกสัตว์เลี้ยงให้คุ้นเคยกับกรง

การฝึกสัตว์เลี้ยงให้คุ้นเคยกับกรงเป็นขั้นตอนสำคัญ เพื่อให้สัตว์ไม่รู้สึกเครียดหรือวิตกกังวลในระหว่างการเดินทาง

  • ใส่ขนม หรือของเล่นที่สัตว์เลี้ยงชอบในกรง เพื่อสร้างความคุ้นเคยและทำให้กรงกลายเป็นสถานที่ที่ปลอดภัย
  • ฝึกให้สัตว์เลี้ยงเข้าไปในกรงและนั่งอยู่อย่างสบายเป็นเวลา 10-15 นาทีทุกวันก่อนการเดินทาง
  • สัตว์เลี้ยงที่คุ้นเคยกับกรงจะรู้สึกสงบในระหว่างการเดินทางมากขึ้น

3.4 การเตรียมอาหารและน้ำ

การเตรียมอาหารและน้ำให้สัตว์เลี้ยงก่อนการเดินทางช่วยให้สัตว์เลี้ยงไม่หิวหรือกระหายน้ำในระหว่างการเดินทาง

  • ควรให้อาหารสัตว์เลี้ยงในเวลาที่เหมาะสมก่อนการเดินทาง เช่น ประมาณ 4-6 ชั่วโมงก่อนบิน เพื่อลดการคลื่นไส้หรืออาเจียน
  • เตรียมน้ำให้สัตว์เลี้ยงโดยใช้ขวดน้ำที่มีระบบหยดหรือถ้วยน้ำที่ติดกับกรงเพื่อให้สัตว์เลี้ยงสามารถดื่มน้ำได้ในระหว่างการเดินทาง
  • หลีกเลี่ยงการให้อาหารในปริมาณมากเกินไปในวันเดินทางเพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงรู้สึกไม่สบายท้อง

3.5 เตรียมเอกสารที่จำเป็น

การเดินทางกับสัตว์เลี้ยงต้องเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสัตว์ เช่น ใบรับรองสุขภาพจากสัตวแพทย์, บันทึกการฉีดวัคซีน, และเอกสารอื่น ๆ ที่สายการบินต้องการ

  • เอกสารการฉีดวัคซีนและใบรับรองสุขภาพจากสัตวแพทย์อาจต้องได้รับการออกภายในระยะเวลาไม่เกิน 7-10 วันก่อนการเดินทาง
  • หากเดินทางไปต่างประเทศอาจต้องเตรียมเอกสารเพิ่มเติม เช่น เอกสารการคัดกรองโรค

3.6 การเลือกเสื้อผ้าและอุปกรณ์เสริม

เลือกเสื้อผ้าที่สบายและเหมาะสมสำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น เสื้อคลุมหรือผ้าห่มที่สามารถใส่ในกรงเพื่อให้ความอบอุ่น หากเดินทางในช่วงที่อากาศหนาวเย็น

  • เตรียมอุปกรณ์เสริม เช่น ถุงมือหรือกระเป๋าใส่อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับสัตว์เลี้ยงระหว่างการเดินทาง เช่น ขนม, ถ้วยน้ำ, ผ้าเช็ดตัว

3.7 ดูแลความสะอาดในระหว่างการเดินทาง

เพื่อไม่ให้กรงสกปรกหรือเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ควรเตรียมแผ่นรองซับปัสสาวะสำหรับสัตว์เลี้ยงในกรง โดยแผ่นรองซับนี้จะช่วยดูดซับของเหลวและทำให้กรงสะอาด

  • หากสัตว์เลี้ยงมีปัญหาการขับถ่ายในระหว่างการเดินทาง การเตรียมแผ่นรองซับปัสสาวะสามารถช่วยลดปัญหานี้ได้

3.8 การดูแลหลังการเดินทาง

หลังจากเดินทางถึงจุดหมายปลายทางแล้ว ควรให้สัตว์เลี้ยงได้พักผ่อนและดื่มน้ำเพื่อฟื้นฟูร่างกายจากการเดินทาง

  • ให้เวลาสัตว์เลี้ยงในการปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ และดูแลให้สัตว์มีความสุขและสบาย

การเตรียมตัวสำหรับการเดินทางกับสัตว์เลี้ยงนั้นเป็นเรื่องสำคัญเพื่อให้การเดินทางทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยงเป็นไปได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย

4. วิธีการเดินทางโดยเครื่องบินสำหรับสัตว์เลี้ยง

4.1 Pet in Cabin

บางสายการบินอนุญาตให้สัตว์เลี้ยงเดินทางในห้องโดยสารได้ โดยสัตว์เลี้ยงจะต้องอยู่ในกรงที่มีขนาดเล็กและสามารถวางไว้ใต้ที่นั่งของเจ้าของ การเดินทางในลักษณะนี้เหมาะสำหรับสัตว์เลี้ยงขนาดเล็ก เช่น สุนัขพันธุ์เล็กหรือแมว

4.2 Checkin Baggage (AVIH)

สำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีขนาดใหญ่เกินกว่าจะนั่งในห้องโดยสาร สัตว์เลี้ยงเหล่านั้นจะต้องขนส่งผ่านช่องเช็คอินพิเศษ (AVIH – Animal in Hold) ซึ่งสัตว์จะถูกขนส่งในพื้นที่ของเครื่องบินที่เหมาะสมและปลอดภัย โดยเจ้าของต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงและกรงที่ใช้ขนส่ง

4.3 Unaccompanied Live Pets (ULP)

สำหรับการเดินทางที่สัตว์เลี้ยงไม่ได้เดินทางกับเจ้าของ สัตว์เลี้ยงจะถูกส่งผ่านบริการ Unaccompanied Live Pets (ULP) ซึ่งจะมีการดูแลอย่างใกล้ชิดและส่งถึงปลายทางโดยตรง นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดเกี่ยวกับเอกสารที่ต้องเตรียมพร้อมเพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย


การพาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบินนั้นไม่ยากถ้าหากเตรียมตัวและปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ การศึกษาข้อมูลล่วงหน้าและการเตรียมการอย่างรอบคอบจะทำให้การเดินทางกับสัตว์เลี้ยงเป็นประสบการณ์ที่น่ารื่นรมย์และปลอดภัยสำหรับทุกคน