Justice League เปิดตัวออกโรงฉายกันไปทำรายได้ไปไม่เบาตั้งแต่วันเริ่มฉาย นักวิจารณ์หนังส่วนใหญ่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไม่ได้เจ๋ง” แต่ก็ดูสนุกอยู่ไม่น้อย และที่สำคัญดูรวมๆแล้วมีเสน่ห์กว่าหนังของค่ายมาร์เวลเสียอีก
เล่าเรื่องดี มีดราม่า
หนังรวมซูเปอร์ฮีโร่ 5 คนจากค่ายดีซีเรื่องนี้มีการผูกปมของตัวละคนแต่ละตัวได้น่าสนใจ และมีการเล่าเรื่องที่ใช้ได้ทีเดียว แต่ด้วยภายใต้เงื่อนไขเวลาที่มีอยู่จำกัดของหนังทำให้เรารู้สึกว่ามันยังไม่ “สุด” นัก หนังนำเสนอเรื่องราวของตัวละครแต่ละตัวที่เป็นเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่แม้จะมีพลังที่เหนือมนุษย์ แต่พวกเขาก็ยังมีความเป็นมนุษย์ที่อ่อนไหวกันอยู่ไม่น้อย ด้วยรูปแบบการดำเนินเรื่อง การจัดฉากและแสงสีถือว่าทำออกมาได้ดีและประณีตอยู่เหมือนกัน ซึ่งนักวิจารณ์หนังหลายคนถึงกับกล่าวเหน็บไปยังหนังซุปเปอร์ฮีโร่ของอีกค่ายอย่างเจ็บๆคันๆว่า “แม้ Justice League จะไม่ได้ออกมาดี 100% อย่างที่คิด แต่ก็ประณีตกว่าหนังของมาร์เวล”
ฮีโร่ยังไม่เจ๋งอย่างที่คิด
แม้ Justice League จะวางโครงเรื่องและมีการปูพื้นเรื่องราวของตัวละครมาได้น่าสนใจ แต่สำหรับการใส่บทบาทเหนือมนุษย์ให้กับตัวละคร ผู้ชมส่วนใหญ่ยังมองว่าไม่น่าประทับใจขนาดนั้น เพราะคนดูไม่ได้รู้สึกเคลียร์แบบกระจ่างแจ้งในความสามารถที่แน่ชัดของซุปเปอร์ฮีโร่แต่ละคน อย่างจ้าวสมุทร “อควาแมน” ผู้ชมไม่แน่ใจว่าเขาเชี่ยวชาญและเก่งด้านไหนแน่ เดอะแฟลช คนรู้กันอยู่แล้วว่าวิ่งเร็ว แต่ก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้น ส่วนตัวร้ายที่นับว่าเป็นจุดแข็งของหนังซุปเปอร์ฮีโร่ทั้งหลายเรื่องนี้กลับทำออกมาแบบ “ไม่โหด” ดูธรรมดา มันจึงทำให้หนังลดความน่าตื่นเต้นลงไปมาก
ภาพรวมดี แต่ขอติเพื่อก่อ
Justice League ในสายตาของผู้ชมและนักวิจารณ์ถือว่าภาพรวมยอมรับได้และเป็นหนังที่ดูสนุกเรื่องหนึ่ง แต่ก็ยังมีจุดที่ต้องปรับปรุงอีกมาก ถ้าจะให้ “เจ๋ง” กว่านี้ แต่ก็เข้าใจผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่เหมือนกัน เพราะก่อนหน้านี้หนังซูเปอร์ฮีโร่ อย่าง Batman V Superman : Dawn of Justice และ Suicide Squad ซึ่งเป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่จากค่ายเดียวกันที่ออกฉายไปก่อนหน้า “แป้ก” ถูกด่าไปไม่เป็นท่า จึงทำให้ผู้สร้าง Justice League ขวัญหนีดีฝ่ออยู่เหมือนกัน จึงทำออกมาได้ไม่สุดและถูกใจผู้ชม แต่ก็เอาเถอะดูเอาสนุกและบันเทิงอย่างเดียวก็ถือว่า Justice League เรื่องนี้น่าดูอยู่ไม่น้อยเลยนะ