หลังเกิดเหตุการณ์กราดยิงในโรงเรียนมาร์จอรี สโตนแมน ดักลาสในรัฐฟลอริดาจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 17 คน เหล่านักเรียนจึงตื่นตัวขึ้นมาแสดงพลังของคนรุ่นใหม่ให้ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับรู้ว่าพวกเขาจะไม่อยู่นิ่งเฉยเพื่อรอวันเป็นเหยื่ออีกต่อไป และพวกเขาไม่ต้องการเห็นความสูญเสียเช่นนี้อีกแล้ว พวกเขาชุมนุมและจัดกิจกรรมเรียกร้องกดดันรัฐบาลสหรัฐอย่างต่อเนื่อง เพื่อเรียกร้องให้เพิ่มความเข้มงวดกฎหมายควบคุมอาวุธปืนผ่านการใช้โซเชียลมีเดีย อย่างในวันที่ 14 มีนาคม พวกเขามีการนัดแนะกันผ่านโซเชียลมีเดียว่าจะให้นักเรียนทั่วประเทศทำการเดินออกจากห้องเรียนพร้อมๆกัน เพื่อเป็นสัญลักษณ์กดดันรัฐบาลของนายโดนัลด์ ทรัมป์ให้ลุกขึ้นมาจริงจังกับกฎหมายอาวุธปืนเสียที

     ประเด็นการรวมตัวและจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์นี้กำลังตื่นตัวเป็นวงกว้างในสหรัฐอเมริกา ซึ่งทางพรรครีพับลิกันเองก็รู้สึกไม่สบายใจนัก เพราะหวั่นจะกระทบกับการเลือกตั้งกลางเทอมในปลายปีนี้ และพลังของคนรุ่นใหม่นี้ไม่ได้เพียงส่งผลกดดันต่อระบบอการเมืองในประเทศเท่านั้น แต่ยังส่งแรงกระชากดึงเอาบริษัทเอกชานหลายแห่งเข้ามาเป็นพวกได้อีกด้วยล่าสุดสายการบินเดลตา แอร์ไลน์ และ ยูไนเต็ด คอนติเนนตัล โฮลดิ้งส์ ที่เป็นเจ้าของสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส ประกาศเลิกให้ส่วนลดเที่ยวบินของบรรดาสมาชิกสมาคมไรเฟิลแห่งชาติ (เอ็นอาร์เอ) ซึ่งเป็นกลุ่มอิทธิพลที่สนับสนุนการเงินให้กับพรรครีพับลิกัน พร้อมนำข้อมูลของเอ็นอาร์เอออกจากหน้าเว็บไซต์

     งานนี้พรรคเดโมแครตเอกก็ไม่อยู่นิ่งเฉย ลงไปสนับสนุนเสียงของเหล่าคนรุ่นใหม่ในฟลอริดาด้วย ซึ่งแน่นอนว่านี่เป็นอีกหนึ่งฉากของเกมการเมือง แต่สิ่งที่อยากจะชี้ให้ห็นว่านี่คือพลังของคนรุ่นใหม่ และพลังของโซเชียลมีเดียมันรุ่นแรงถึงขนาดกระทบกับภาพใหญ่ของประเทศได้เลยทีเดียว สหรัฐอเมริกาเป็นบิ๊กของโลกแต่กลับมาสะเทือนเพราะสังคมออนไลน์ที่ดูเล็กๆได้ พลังของโลกออนไลน์มันแข็งแกร่งกว่าที่คาดคิดไว้นัก

อ้างอิง : bbc, theguardian