ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เริ่มทดลองการโอนเงินบน Enterprise Blockchain Solution หรือเทคโนโลยี Blockchain แล้ว โดยเป็นการโอนเงินระหว่างบริษัทของญี่ปุ่นในไทยกับบริษัทสิงคโปร์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่บริษัทญี่ปุ่นใช้ระบบการโอนเงินโดยแพลตฟอร์มใหม่นี้

     ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น MUFG Bank และ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (Standard Chartered)ของสิงคโปร์ ได้ประกาศความร่วมมือในการเริ่มทดสอบการโอนเงินระหว่างประเทศด้วยเทคโนโลยี Blockchain อย่าง RippleNet เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการทางการเงินและให้การชำระเงินระหว่างประเทศเป็นที่สะดวกยิ่งขึ้น อีกทั้งยังพัฒนาประสิทธิภาพของการบริหารจัดการเงินทุนให้กับภาคองค์กรธุรกิจ การทดสอบโอนเงินครั้งนี้ เป็นการโอนเงินสกุลดอลลาร์สิงคโปร์ ระหว่างบัญชีของบริษัทบริษัท ไทย-เอ็มซี จำกัด (บริษัทในเครือมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งตั้งอยู่ในไทย) ที่เปิดบัญชีกับธนาคารธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด มหาชน ส่งไปยัง MC Finance & Consulting Asia Pte Ltd. (บริษัทในเครือมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งตั้งอยู่ในสิงคโปร์) ซึ่งเปิดบัญชีกับธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด สิงคโปร์

     โดยปกติแล้วการโอนเงินระหว่างภาคธุรกิจเป็นจำนวนมากๆและต้องโอนชำระข้ามประเทศแบบนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยากและต้องใช้เวลาในการทำการหลายวัน การนำเทคโนโลยีอย่าง Blockchain เข้ามาช่วยในเรื่องนี้จะทำให้สามารถลดทอนเวลาในการโอนเงินลงไปได้เป็นอย่างมาก การทดสอบดังกล่าวนี้อยู่ภายใต้ Regulatory Sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่บริษัทญี่ปุ่นใช้ระบบการโอนเงินระหว่างประเทศของ RippleNet ซึ่งเป็น Enterprise Blockchain Solution ด้าน Payment

     ก่อนหน้านี้ธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้มีการใช้เทคโนโลยีนี้ในการโอนเงินไปบ้างแล้วตั้งแต่ปี 60 โดยธนาคารได้ร่วมมือกับบริษัทใน สปป. ลาว ในการทดสอบการโอนเงินระหว่างประเทศ ด้วยการส่งเงินด้วยสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐจากสาขาของธนาคารใน สปป. ลาว ไปยังกรุงศรี สำนักงานใหญ่ ในกรุงเทพฯ ซึ่งขั้นตอนต่างๆเป็นไปอย่างรวดเร็วและสะดวกมากขึ้น สามารถทำการตรวจเช็คได้แบบเรียลไทม์ นี่นับเป็นนวัตกรรมใหม่ที่จะมายกระดับเรื่องการโอนเงินต่างสกุลได้อย่างดีเยี่ยมมากยิ่งขึ้นในเร็วๆนี้แน่นอน