เห็ดหอม 香菇 (เซียงกู) ชาวจีน(แต้จิ๋ว) เรียกว่า เฮียโกว หรือ ตัวโกว แล้วแต่ที่มาของเห็ดหอมว่ามาจากที่ใดด้วย เพราะบางชนิดมีเนื้อหนา บางชนิดมีเนื้อบาง คนญี่ปุ่นเรียกว่า ชิตาเกะ (Shitake) เป็นพืชที่ชาวจีนและญี่ปุ่นนิยมนำไปประกอบอาหารรับประทานกันมากมาตั้งแต่โบราณ ชาวจีนสมัยก่อนเคยขนานนามเห็ดหอมว่าเป็น “ราชินีแห่งพืชผัก” เห็ดหอมนอกจากจะเป็นวัตถุดิบที่นำมาประกอบอาหารได้แสนอร่อยแล้ว ชาวจีนยังมีการศึกษาถึงคุณค่าทางโภชนาการและนำเห็ดหอมมาใช้เป็นยาอีกด้วย
สารอาหารที่พบในเห็ดหอม
ในช่วงศตวรรษที่ 14 มีบันทึกของแพทย์ชาวจีนที่ระบุไว้ว่า แพทย์จีนได้มีการใช้เห็ดหอมทำเป็นยาอายุวัฒนะ และใช้รักษาโรคหลายชนิด ซึ่งสอดคล้องกับนักวิจัยสมัยใหม่ที่พบว่าเห็ดหอมช่วยป้องกันโรค ต้านเชื้อไวรัสและป้องกันโรคมะเร็ง นักวิจัยชาวญี่ปุ่นพบว่า เห็ดหอมมีกรดอะมิโนบางชนิดที่ช่วยเผาผลาญคอเลสเตอรอลในเลือด และยังพบว่า เห็ดหอมมีสารเลติแนน(lentinan) ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้มีประสิทธิภาพในการต่อสู้ ยับยั้งหรือป้องกันการเติบโตของเซลล์เนื้องอกและมะเร็งได้ดีอีกด้วย
ประโยชน์ของเห็ดหอมในทางการแพทย์จีน
เห็ดหอม เป็นพืชผักที่มีรสขม มีฤทธิ์เย็นเล็กน้อย เล็กน้อย ออกฤทธิ์ตามเส้นลมปราณของหัวใจ ตับ ปอด มีสรรพคุณช่วยดับร้อนถอนพิษ ทำให้ปอดชุ่มชื้น แก้ไอ ป้องกันโรคความดัน และโรคหลอดเลือดหัวใจ ป้องกันโรคกระดูกผุ ช่วยขับปัสสาวะ สามารถนำมาขับพิษจากอาหารและยาบางชนิดได้ แก้วัณโรคปอด แก้เสมหะปนเลือด แก้อาการตกเลือด ช่วยลดนิ่วในท่อปัสสาวะ สามารถนำไปรักษาฝี หรือขับพิษจากการถูกงูกัดได้ และยังมีส่วนช่วยในการชะลอความชราอีกด้วย
เห็ดหอมกับสรรพคุณทางยา
เห็ดหอมจะให้สรรพคุณทางยาเพียงทางเดียวคือนำไปบริโภคเท่านั้น เห็ดหอมเป็นพืชผักที่มีสรรพคุณเป็นยาในตัวอยู่แล้ว การนำเห็ดหอมไปประกอบอาหารและนำมารับประทานเพียงเท่านี้ก็จะได้คุณค่าทางยาในการบำบัดโรคไปโดยปริยาย
ข้อควรระวัง
การกินเห็ดหอมไม่ควรกินมากเกินไป เพราะจะทำให้ท้องอืดและมีผลเสียต่อระบบย่อยอาหาร ส่วนสตรีหลังคลอด ผู้ป่วยหลังฟื้นไข้ รวมถึงคนที่เพิ่งหายจากอาการออกหัด ไม่ควรรับประทาน