ประเทศจีนกว้างใหญ่และประชากรมาก แม้เมืองใหญ่ๆจะมีการเติบดตทางเศรษฐกิจสูง แต่ก็มีหลายเมืองในชนบทที่ยังอยู่ห่างไกลความเจริญ หนึ่งในแนวความคิดและนโยบาย “ขจัดความจน” ของรัฐบาลจีนก็คือ การผลักดันเทคโนโลยี “อินเทอร์เน็ต” ให้เข้าถึงโรงเรียนและเยาวชนเพื่อลดช่องว่างในการศึกษาของคนในประเทศ

     ปฏิเสธไม่ได้ว่าอินเทอร์เน็ตมีพลังมหาศาลและเป็นสิ่งจำเป็นไปแล้วในปัจจุบัน รัฐบาลจีนมองเห็นพลังของสิ่งนี้จึงเริ่มเตรียมจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมที่จะลงทุนขยายโครงข่ายอินเตอร์เน็ตให้เข้าสู่ชนบท และด้วยรัฐบาลจีนมีแนวนโยบายเปลี่ยนแปลงประเทศที่จะขจัดความจนให้หมดไปภายในปี 2020 ด้วย รัฐบาลจีนจึงมองว่าปัญหาเยาวชนในโรงเรียนชนบทยังไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเป็นปัญหาที่ทางการจีนต้องเข้าแก้ไขอย่างเร่งด่วน แม้ว่าโรงเรียนต่างๆในชนบทนั้นจะไม่ได้มีนักเรียนมากก็ตาม แต่ก็ควรจัดสรรงบประมาณและเทคโนโลยีไปให้ถึงด้วยเช่นกัน

     สำหรับสภาพโดยทั่วไปของโรงเรียนจีนในชนบทนั้น ดูไปก็ไม่ต่างจากบ้านเราเหมือนกัน เพราะแทบไม่น่าเชื่อว่าโรงเรียนในชนบทจำนวนมากในจีนมีนักเรียนอยู่เพียง 3 – 5 คนเท่านั้น ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าคนวัยทำงานมักอพยพเข้าเมืองใหญ่เพื่อแสวงหาความเจริญและก็นำบุตรหลานไปด้วย โรงเรียนมีนักเรียนน้อยแบบนี้หลายคนอาจสงสัยว่าแล้วทำไมไม่ปิดหรือยุบโรงเรียนไป อันนี้ก็เนื่องจากว่ากฎหมายของจีนมีระบุไว้ในเรื่องนโยบายการศึกษา ว่าทุกเมืองทุกที่แม้ว่าจะอยู่ห่างไกลต้องมีโรงเรียน ถึงแม้ว่าโรงเรียนนั้นจะมีนักเรียนน้อยแค่ไหนก็ตาม หากยังมีนักเรียนอยู่ก็ต้องเปิดโรงเรียนต่อไป และถึงค่าเล่าเรียนที่เก็บจากนักเรียนจะไม่เพียงพอต่อการให้ครูอาจารย์ผู้บริหารโรงเรียนนำมาชำระค่าสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานก็ตามถึงอย่างไรก็ยังต้องเปิดต่อไป

     รัฐบาลจีนทราบถึงปัญหาเหล่านี้ดี จึงพยายามที่จะกระจายงบประมาณลงไปสู่โรงเรียนต่างๆเหล่านี้ในชนบท รวมถึงจะกระจายเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตลงไปด้วยพร้อมๆกัน โดยรัฐบาลจีนได้ร่วมกับ Unicom บริษัทเครือข่ายสัญญาณที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศในการขยายอินเตอร์เน็ตไปสู่ชนบทห่างไกล โดยทางการจีนได้วางแผนว่าจะติดตั้งเคเบิล 100 เมกะบิตต่อวินาทีให้กับโรงเรียนชนบทภายใน 2 ปีนี้

 

อ้างอิง : westdollar