เมื่อกล่าวถึงเงินเฟ้อ คนที่เป็นมือใหม่ในการลงทุนอสังหาหรือคนนอกวงการเงินๆทองๆก็คงอาจจะยังไม่เข้าใจนัก เราจึงขออธิบายแบบรวบรัดเพื่อให้เข้าใจกันง่ายขึ้น เงินเฟ้อก็คือการเดินสวนทางกันของ “เงินที่เราถือ” กับ “ราคาสินค้า” ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่นเมื่อก่อนเราเติมน้ำมันอยู่ที่ลิตรละ 15 บาท ถ้ามีเงิน 300 บาท เราก็เติมได้ 20 ลิตร แต่ปัจจุบันน้ำมันอยู่ที่ลิตรละ 30 บาท เงินจำนวน 300 บาทเท่านั้น แต่กลับเติมน้ำมัยได้เพียง 10 ลิตรเท่านั้น พูดง่ายๆ ว่าค่าของเงินมันลดลงไปเยอะ นี่ล่ะที่เขาเรียกว่า “เงินเฟ้อ” และมีคำกล่าวในวงการการลงทุนอสังหาอยู่เสมอว่า การลงทุนกับ “บ้าน” สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้ จริงอย่างนั้นหรือไม่
การลงทุนกับบ้าน คุ้มค่ากว่าที่คุณคิด
หลายคนกำลังคิดว่าอยากลงทุนกับบ้าน บางคนคิดว่าจะซื้อบ้านเร็วๆนี้ แต่สิ่งที่คุณควรรู้อีกประการก็คือ การซื้อบ้าน ไม่ว่าจะเป็นบ้านใหม่หรือมือสองก็ตาม นอกจากจะใช้เป็นที่อยู่อาศัยแล้ว หากมีการวางแผนที่รัดกุม การซื้อบ้านก็นับเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนค่อนข้างดี เพราะเราแค่เปลี่ยนจากการจ่ายเงินเช่าบ้านทุกเดือนมาเป็นค่าผ่อนบ้านของตัวเอง แล้ววันหนึ่งถ้าเราอยากขายบ้านที่เราลงทุนซื้อไว้ขึ้นมา ราคาขายบ้านต่อส่วนใหญ่จะเพิ่มขึ้นจากที่เราซื้อ
เหตุผลที่มูลค่าของบ้านเพิ่มขึ้น จนเอาชนะเงินเฟ้อได้
มาถึงตรงนี้ บางคนอาจสงสัยว่าแล้วอะไรล่ะที่ทำให้มูลค่าของอสังหา ถีบตัวสูงขึ้นตลอดเวลา คำตอบก็คือ “บ้านและที่ดิน” เป็นทรัพย์สินที่มีจำกัด ไม่สามารถหามาทดแทนได้ ทุกพื้นที่ในประเทศนั้นมีโฉนดที่ดินซึ่งแปลว่ามีเจ้าของจับจองกันหมดแล้วทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้เองจึงมีการใช้บ้านและที่ดินเป็นตัววัดว่า เศรษฐกิจมีแนวโน้มดีหรือแย่ ยิ่งในช่วงที่ประสบภาวะเงินเฟ้อ จะมีคนจำนวนหนึ่งเลือกถือครองที่ดินแทนเงินสด เพราะเป็นทางออกที่ดีที่สุดทางหนึ่งที่จะไม่ให้ค่าเงินลดต่ำลงไปเรื่อยๆ ปกติคนที่ทำงานประจำจะได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นตามสภาวะเงินเฟ้อ แต่เรื่องของทรัพย์สินส่วนตัว เช่นกระเป๋า รองเท้า รถยนต์ นาฬิกา หรือคอนโด เมื่อเวลาผ่านไปส่วนใหญ่มูลค่าจะลดลง มีเพียงแค่นาฬิกากับคอนโดเท่านั้นที่ราคาเพิ่มตามรายได้ของเรา นอกนั้นมูลค่าลดลงแทบจะเป็นศูนย์ คนที่เข้าใจเรื่องเงินเฟ้อ เมื่อเก็บเงินได้จำนวนหนึ่งก็จะเอาไปลงทุนซื้ออสังหาฯ อาจจะซื้อบ้านหรือที่ดินเก็บไว้ เพื่อเอาชนะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นในอนาคตนั่นเอง มีตัวอย่างง่ายๆ ให้เห็นภาพกัน เช่นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นเป็นบ้านใหม่ เนื้อที่ 50 ตร.ว. ในย่านแจ้งวัฒนะ ช่วงทำเลดีๆ เมื่อปี พ.ศ.2523 ตอนนั้นราคาไม่เกิน 3 แสนบาท พอเวลาผ่านไปหลายสิบปี ราคาของบ้านหลังนั้นกลับดีดตัวสูงขึ้นกว่า 3 ล้านบาท นั่นแสดงให้เห็นชัดเจนว่า เมื่อเวลาผ่านไปราคาบ้านจะเพิ่มขึ้นตลอด แถมชนะเงินเฟ้ออีกต่างหาก
ขนาดเว็บไซต์ในเครือของตลาดหลักทรัพย์ฯเองยังยอมรับเลยว่าการลงทุนอสังหาฯนั้น แม้จะมีสภาพคล่องต่ำกว่าหุ้น แต่ก็ถือว่ามีความมั่นคงสูง มีความเสี่ยงต่ำเหมาะกับการลงทุนเป็นอย่างยิ่ง นอกจากเรื่องของการเป็นสินทรัพย์จำกัด ไม่สามารถหามาทดแทนได้ สาเหตุที่ราคาของบ้านยังคงขึ้นต่อเนื่องก็เพราะความต้องการ (Demand) นั้นยังคงมีอยู่เสมอ มีคนอยากหาซื้อบ้านอยู่ตลอดเวลา ราคาก็เลยเพิ่มขึ้นตามกลไกตลาด และการซื้อขายที่ดินนั้นก็จะยึดหลักราคาในพื้นที่เป็นเกณฑ์ ซึ่งปรับขึ้นทุกปี ทำให้ราคาไม่สามารถลดลงไปกว่าเดิมได้ เราจึงขอสรุปว่าการลงทุนกับบ้านนั้นสามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้จริงๆ
ถ้าคุณซื้อบ้านและที่ดินได้ถูกที่ ถูกทาง ถูกจังหวะ ส่วนต่างของราคาตอนซื้อกับราคาตอนขาย ที่ตอนแรกอาจจะถูกมองว่าเป็นเพียงแค่ “ผลพลอยได้” แต่ไม่แน่ว่าต่อมาอาจเป็น “กำไร” คำโตที่คุณจะประทับใจไม่รู้ลืมเลยทีเดียว