อุตสาหกรรมธุรกิจค้าเหล็ก เป็นอีกหนึ่งวงการธุรกิจที่ได้รับผลกระทบหนักมากจาก สงครามการค้าจีน – สหรัฐฯ ซึ่งขณะนี้เริ่มลุกลามเข้ามาถึงธุรกิจค้าเหล็กในไทยและประเทศในอาเซียน เพราะจีนเริ่มปรับยุทธศาสตร์ของตนเองเพื่อให้อยู่รอด
ขณะนี้จีนเร่งปรับยุทธศาสตร์การค้าเหล็กใหม่ เพื่อรักษายอดส่งออก จากเดิมที่จีนเคยพึ่งตลาดหลัก อย่าง อเมริกาและยุโรป แต่พอเกิดข้อพิพาทและปัญหาทางการค้ากับทางสหรัฐอเมริกา อุตสาหกรรมเหล็กของจีนก็เริ่มเจอปัญหาและเข้าสู่ทางตันมาเรื่อยๆ ซึ่งจีนจำเป็นที่จะต้องหาทางออกใหม่ที่ทำให้ธุรกิจค้าเหล็กในประเทศมีทางออกและเดินต่อไปได้ โดยเมื่อเร็วๆนี้ รัฐบาลจีนออกมาประกาศอุดหนุนผู้ส่งออก โดยปรับโครงสร้างการคืนภาษีสินค้าส่งออกสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเหล็ก จำนวน 85 รายการ เช่น สินค้าเหล็กแผ่นรีดเย็นที่ความหนามากกว่า 3 มม. ที่มีค่า Yield Strength > 355 นิวตัน/มม. 2 ปรับเพิ่มอัตราการคืนภาษีจาก 9% เป็น 13% หรือ เหล็กเคลือบสีที่มีความกว้างน้อยกว่า 600 มม. ปรับเพิ่มอัตราการคืนภาษีจาก 0 เป็น 9% หรือ ท่อเหล็กและท่อเหล็กหล่อบางส่วนได้เพิ่มอัตราการคืนภาษีจาก 9% เป็น 13%
ถ้ามองกลับมาที่ไทยและประเทศในอาเซียน คนในวงการธุรกิจค้าเหล็ก ต่างหน้าถอดสีจากการปรับยุทธศาสตร์เพื่ออยู่รอดครั้งนี้ของจีน ทุกฝ่ายต่างกังวลว่า ปริมาณเหล็กจากจีนล็อตใหม่จะทะลักเข้าไทยและประเทศในกลุ่มอาเซียนตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป โดยขณะนี้ยังไม่ทราบจำนวน แต่ก็น่าเป็นห่วง เพราะสถานการณ์ในอุตสาหกรรมเหล็กชนิดต่างๆในขณะนี้ก็แข่งขันกันรุนแรงมาก และที่สำคัญจีนเป็นประเทศที่มีกำลังการผลิตสูงมาก มีความสามารถในการผลิตเหล็กรวมทุกชนิดได้มากถึง 1,200 ล้านตันต่อปี แต่ในช่วง 2 ปีมานี้ จีนผลิตได้จริงราว 800 ล้านตัน ในจำนวนนี้จีนจะผลิตเพื่อใช้ภายในประเทศจีน จำนวน 600 ล้านตันเศษ และยังมีปริมาณส่วนเกินที่เหลือใช้ราว 150 ล้านตันต่อปี โดยมีการประเมินกันว่า ในยอดส่วนเกินนั้น จีนจะส่งออกมายังอาเซียนราว 60-70 ล้านตัน ซึ่งรวมถึงส่งมาตีตลาดเหล็กราคาถูกในประเทศไทยด้วย
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ผู้ผลิตเหล็กเกือบทุกชนิดทั่วโลกกำลังตื่นตระหนกกับสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกาอยู่นั้น ล่าสุด ก็ยังมีข่าวดีเกิดขึ้นกับวงการเหล็กด้วย เนื่องจากเมื่อเร็วๆนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐอเมริกาได้ประกาศยกเว้นภาษีตามมาตรา 232 ในอัตรา 25% สำหรับประเทศไทย ที่การส่งออกเหล็กแผ่นรีดเย็นสำหรับใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ไปยังสหรัฐอเมริกา ในปริมาณรวมกันราว 5 แสนตัน