ธนาคารกสิกรไทยจัดงานใหญ่ประจำปี ‘A Year of I : KBank Vision 2019’ เปิดเวทีให้ 5 ผู้บริหารได้แจงวิสัยทัศน์ และทิศทางขององค์กรที่จะมุ่งหน้าไปนับจากนี้ซึ่งพร้อมประกาศตัวเป็นธนาคารอัจฉริยะของประเทศไทย
5 เสือแห่ง KBank ประกอบไปด้วย 4 กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย ปรีดี ดาวฉาย, ขัตติยา อินทรวิชัย, พิพิธ เอนกนิธิ, พัชร สมะลาภา กับ 1 หัวกะทิแห่งวงการ Startup ที่ขณะนี้นั่งในตำแหน่งประธานกสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) เรืองโรจน์ พูนผล ได้ขึ้นเวที ‘A Year of I : KBank Vision 2019’ แสดงวิสัยทัศน์ที่จะนำ KBank ก้าวเดินหน้าต่อไปสู่ศักราชใหม่ที่แข็งแกร่งกว่าเดิม แผนสำคัญนับจากนี้คือ การขยายการชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ดบน K PLUS ในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งการใช้งานจากประเทศเพื่อนบ้านที่ประเทศไทยด้วย คาดว่าจะเริ่มต้นได้ที่ประเทศญี่ปุ่นในไตรมาส 3 ของปี 2562 นี้ ขณะเดียวกัน การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนจะเกิดเป็นรูปธรรมมากขึ้น คาดว่าจะมียอดธุรกรรมจากบริการหนังสือค้ำประกันถึง 4 หมื่นรายการในปีนี้ รวมทั้งการเปิดบัญชีข้ามธนาคารทุกที่ ทุกเวลา และโครงการเอทีเอ็มสีขาวที่รองรับทุกสถาบันการเงินด้วย
สิ่งที่หลายคนคาดไว้ก็คือ การประกาศรุกการให้สินเชื่อดิจิทัล (Data Driven Lending) ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งทางผู้บริหาร KBank ก็ไม่พลาดที่จะหยิบจับเรื่องนี้มากล่าวด้วย เป้าหมายสำคัญของกสิกรไทยคือ การนำข้อมูลมาประกอบการตัดสินใจ จนสร้างรายได้ให้มีสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 50% ของรายได้ทั้งหมด และเมื่อพิจารณาภาพรวมของธุรกิจสินเชื่อทุกประเภท คาดว่าจะเติบโต 5-7%
สรุปวิสัยทัศน์ของคณะผู้บริหาร KBank ในครั้งนี้ก็จะพบว่า ขณะนี้ KBank เล็งโอกาสในการรุกธุรกิจในตลาดประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CCLMVI (จีน กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม และอินโดนีเซีย) ซึ่งคาดว่าจะมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่าประเทศไทย 41 เท่า และจำนวนประชากรมากกว่าประเทศไทย 28 เท่าในอีก 11 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 ถือเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพ ขณะนี้มีทีม KVision เกิดขึ้น เพื่อแสวงหาเทคโนโลยีและการลงทุนใหม่ๆ ในฟินเทค ด้วยวงเงินลงทุนกว่า 8 พันล้านบาท นอกจากนี้ยังมี Innovation Lab ใน 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย อิสราเอล จีน อินโดนีเซีย และเวียดนามด้วย เป้าหมายใหญ่ที่กสิกรไทยวางไว้คือ การสร้างแพลตฟอร์มการชำระเงินแห่งภูมิภาคที่เข้าถึงผู้บริโภครายย่อยในแต่ละประเทศกลุ่มเป้าหมาย โดยตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจในต่างประเทศเติบโตขึ้น 8 เท่าภายใน 3 ปีนับจากนี้