บิ๊กซีขยับช้าๆ แต่มาทีก็แรง เตรียมทุ่มงบปรับโมเดลธุรกิจและขยายสาขา พร้อมจะให้บริการถึงตี 2 ในทำเลทองที่สำคัญและเตรียมรีโนเวตขยายสาขาเพิ่ม ขยายฐานผู้บริโภคทั้งไทยและเทศ
นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยถึง แนวทางธุรกิจที่จะดำเนินไปในปีนี้ของกลุ่มบิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ว่า มีแนวทางในเรื่องของการขยายเวลาให้บริการเพิ่มถึงตี 2 แต่เป็นเพียงบางสาขา โดยจะพิจารณาเลือกทำเลที่มีความสำคัญ เป็นโซนเศรษฐกิจท่องเที่ยว เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าคนไทยและนักท่องเที่ยวจีนและเวียดนามกว่า 2 ล้านคนต่อปีที่เข้ามาเป็นลูกค้าบิ๊กซีอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ก็เพื่อให้ลูกค้าได้มีเวลาเลือกซื้อสินค้าได้อย่างเต็มที่ และแน่นอนว่าการขยายเวลาให้บริการออกไปจะช่วยให้ผลประกอบการดีขึ้น ซึ่งขณะนี้บิ๊กซีที่อยู่ในทำเลเศรษฐกิจสำคัญ 4 สาขา คือ สาขารัชดาภิเษก สาขาเอกมัย สาขาราชดำริ สาขาภูเก็ต ได้เปิดให้บริการตั้งแต่ 09.00-02.00 น. แล้ว ซึ่งแนวทางนี้คาดว่าจะมีการขยายตัวไปยังสาขาอื่นๆ ที่อยู่ในทำเลสำคัญอีกภายในสิ้นปีนี้เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค และขณะนี้อยู่ในขั้นการวางแผนและการพิจารณาเรื่องทำเลที่เหมาะสม
นอกจากนั้นแล้วทางบิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ยังคงเดินหน้าเรื่องของการขยายสาขาเพิ่ม โดยเตรียมทุ่มงบประมาณไปกับแนวทางนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัดที่ยังมีโอกาสขยายได้อีกมาก ควบคู่กับการรีโนเวตสาขาปัจจุบันให้ทันสมัย เช่นบิ๊กซีสาขาราชดำริ ซึ่งจะมีการตกแต่งพื้นที่ภายในศูนย์การค้าให้มีความทันสมัย และเปลี่ยนแปลงในส่วนของร้านค้าที่เพิ่มแม็กเนตใหม่ๆ เข้ามาเสริมทัพ โดยจากเดิมจะมีร้านค้าอยู่ 73 ร้านค้า เมื่อรีโนเวตปรับปรุงใหม่ร้านค้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 22 ร้านค้ารวมทั้งหมด 95 ร้าน อาทิ ร้านนารายา ร้านวาวี ร้านกิ๊ฟช็อป และร้านอาหารต่างๆ รวมทั้งพื้นที่ในส่วนของสโตร์มีพื้นที่ขายกว่า 10,000 ตารางเมตร
ทั้งนี้ คาดว่าการรีโนเวตสาขาราชดำริโฉมใหม่ครั้งนี้ จะสามารถสร้างรายได้จากกลุ่มนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นถึง 80% อย่างไรก็ตาม ในช่วงสิ้นปีถึงปี 2562 บริษัทจะเริ่มขยายสาขาบิ๊กซีสาขาใหญ่ เพิ่มจำนวน 30 สาขาทั่วประเทศ โดยเงินลงทุน 100 ล้านบาทต่อสาขา ทั้งนี้เพื่อขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นจากเดิม และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ทั้งในเขตกรุงเทพฯและต่างจังหวัด