สมาคมประกันชีวิตไทยและสมาคมประกันวินาศภัยไทย เริ่มหารือเรียกร้องขอปรับขึ้น “เบี้ยสุขภาพ” กับทางคปภ. หลังจากที่ต้นทุนการรักษาพยายาบาลโรงพยาบาลต่างๆสูงขึ้นทำให้ยอดเคลมประกันพุ่งสูง ทำให้บริษัทประกันต่างๆ ต้องรับภาระหนัก
เนื่องจากขณะนี้อัตราค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้นปีละเกือบ 8% จึงส่งผลกระทบกับเหล่าธุรกิจประกันเริ่มที่จะประสบภาวะขาดทุนอย่างหนัก จึงทำให้กลุ่มธุรกิจประกันเริ่มหารือในเรื่องของการของปรับขึ้นเบี้ยประกันสุขภาพใหม่ โดยทางสมาคมประกันชีวิตไทยและสมาคมประกันวินาศภัยไทยได้เริ่มเข้าหารือกับทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)แล้ว แต่ยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัดในเรื่องนี้ว่าทิศทางจะเป็นอย่างไร ซึ่งคปภ.ยังคงให้ความเห็นว่าหากจะมีการขยับปรับเบี้ยประกันให้สูงขึ้นก็ควรจะเป็นการปรับสำหรับลูกค้าใหม่ในอนาคตเท่านั้น แต่ทางกลุ่มธุรกิจประกันยังไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ จึงทำให้ยังไม่มีการดำเนินการใดๆในขณะนี้
ถ้ามองถึงกลุ่มประกันที่มีค่าใช้จ่ายสูงมากในกลุ่มประกันชีวิตและประกันสุขภาพก็จะเป็น ประกันสุขภาพเด็กอายุ 0-5 ปี ที่มียอดในการเคลมสูงมาก ซึ่งเป็นประกันสุขภาพที่ีทำให้บริษัทประกันต่างๆพากันขาดทุน ซึ่งหลายบริษัทเริ่มพิจารณาที่จะไม่ขายประกันในลักษณะนี้แล้ว หากเป็นเช่นนั้นปัญหาที่จะตามมาก็คือ ภาครัฐจะถูกบีบให้มีการออกสวัสดิการในเรื่องนี้แทนเอกชน
ด้านนายปิติพงศ์ พิศาลบุตร ประธานคณะกรรมการประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพ สมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า สำหรับเบี้ยประกันสุขภาพในธุรกิจประกันวินาศภัยก็ขยับเพิ่มขึ้นจนใกล้ชนเพดานแล้วเช่นกัน เนื่องจากค่ารักษาพยาบาลที่ปรับสูงขึ้นทุกปี โดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชน จะยิ่งทำให้อัตราเบี้ยประกันสุขภาพแพงขึ้นจนลูกค้าจ่ายไม่ไหว ทำให้สมาคมฯหยิบยกเรื่องนี้เข้าหารือ คปภ.ถึงแนวทางการขอปรับเบี้ยประกันสุขภาพที่เหมาะสม คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วๆ นี้