เทรนด์สิ่งแวดล้อมกำลังเป็นประเด็นที่โลกให้ความสำคัญ เพราะนับวันโลกเริ่มส่งผลกระทบที่รุนแรงย้อนกลับมาหาพวกเรา ในแง่ของสภาวะอากาสที่แปรปรวนและภัยธรรมชาติที่รุนแรงขึ้น และล่าสุดเมื่อ 27 ก.พ. ที่ผ่านมาในยุโรปหลายประเทศก็มีสภาพอากาศแปรปรวนสุดขั้วคล้ายกับจะย้อนกลับไปสู่ยุคน้ำแข็ง เพราะหลายเมืองขาวโผนไปหมดถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ สภาพอากาศหนาวเย็นจัดถูกแผ่ไปทั่วยุโรปจนทำให้ผู้คนไม่สามารถจะใช้ชีวิตตามปกติได้เลย

     สำนักข่าวเอพีรายงานว่าสภาพอากาศที่เลวร้ายนี้ทำให้หลายๆประเทศในยุโรปมีสภาพเมืองคล้ายเป็นอัมพาตไปเลย กิจกรรมทุกอย่างในเมืองต้องหยุดชะงักลงไปทันที อย่างในสถานการณ์ในกรุงโรม เมืองหลวงของอิตาลีก็ย่ำแย่หนัก พายุหิมะกระหน่ำกรุง จนเมืองตกอยู่ในสภาพเป็นอัมพาต ระบบการขนส่งมวลชนหยุดชะงัก ประชาชนบางส่วนตื่นเต้นดีใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ทั้งนี้ก็ได้รับผลกระทบต่อการใช้ชีวิตพอสมควร เพราะก่อนหน้านี้ประชาชนยังออกมาเดินเล่นสูดอากาศได้ แต่ตอนนี้ต้องอยู่แต่ในตัวอาหารบ้านเรือน ทางการอิตาลีจึงต้องแก้ปัญหาโดยส่งกองกำลังทหารเข้าช่วยบรรเทาทุกข์และรับมือสถานการณ์ให้เร่งเคลียร์หิมะที่ตกลงมากองหน้ากีดขวางเส้นทางจราจร

     ส่วนประเทศอื่นๆ ในยุโรปต่างเผชิญสภาพการณ์คล้ายกัน เช่นที่อังกฤษ ผู้คนรีบกลับบ้านก่อน 6 โมงเย็น เนื่องจากได้รับรายงานว่าอุณหภูมิจะดิ่งลงติดลบ สภาพอากาศที่เย็นยะเยือกสุดๆนี้สื่อต่างประเทศระบบุว่าสภาพอากาศคล้ายกับที่หนาวเย็นในแถบไซบีเรียเลยทีเดียว ซึ่งพวกเขาเรียกปรากฏการณ์แบบนี้ว่า “ปีศาจตะวันออก”  ส่วนทางด้านประเทศลิธัวเนีย อุณหภูมิดิ่งลงไปติดลบกว่า -34 องศาเซลเซียส จนมีคนหนาวตายไปแล้ว 3 ราย ที่สวีเดนเดือดร้อนไปยังนายกสวีเดนสเตฟาน ลอฟเวน เพราะรถยนต์ของนายกสวีเดนลื่นไถลหลุดจากถนนลงไปรางรถไฟ ขณะพายุหิมะกระหน่ำ แต่นายกฯ ไม่ได้บาดเจ็บอะไร ขณะที่เยอรมนี อุณหภูมิดิ่งลงไปติดลบเช่นกันที่ -27 องศาในเขตภูเขาซุกสปิตเซ แถบเทือกเขาแอลป์ และที่กรุงมอสโก อากาศภายในเมืองหลวงติดลบที่ -20 องศา เป็นสถิติที่เย็นยะเยือกที่สุด

     หรือนี่เรากำลังจะกลับสู่ยุคน้ำแข็งกันแน่เนี้ย คงถึงเวลาที่ต้องดูแลโลกใบนี้กันอย่างจริงจังเสียทีแล้วล่ะ

อ้างอิง : dailymail