ปี 61 เทรนด์และกระแสโลกจะหมุนไปทางไหน เราคนไทยต้องจับตา

     เผลอแป๊ปเดียวก็ผ่านเข้าปีใหม่มาแล้วอย่างรวดเร็ว อะไรหลายๆอย่างมีการเปลี่ยนแปลงรับปีใหม่มากมายจริงๆ เพราะโลกไม่เคยหยุดนิ่ง กระแสโลกและเทรนด์โลกในเรื่องต่างๆจึงเปลี่ยนแปลงไปเสมอๆ ล่าสุดเว็บไซต์ฟอร์จูนได้มีการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกระแสโลกที่น่าจะเกิดขึ้นในปี 61 นี้ขึ้นมา ซึ่งกระแสโลกที่ว่านี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงและเทรนด์ของโลกอย่างแน่นอน มาดูกันว่าจะมีอะไรที่น่าจะเกิดขึ้นในปี 61นี้กันบ้างกับโลกของเราใบนี้

สหรัฐอเมริกาพี่เบิ้มของโลก

     มาเริ่มต้นกันที่พี่ใหญ่ของโลกเราอย่างสหรัฐอเมริกากันก่อน เพราะประเทศนี้มีอิทธิพลต่อกระแสโลกและเทรนด์โลกต่างๆจริงๆ และคนที่ต้องกล่าวถึงเลยก็คือ ผู้กุมอำนาจสูงสุดอย่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เมือ่ปีที่แล้วสร้างสีสันต่างๆบนเวทีโลกไว้มากมาย ปลายปี 61 นี้ สหรัฐอเมริกาจะมีการจัดเลือกตั้งกลางเทอม อันเป็นการเลือกตั้งในส่วนของสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด 435 ที่นั่ง วุฒิสภา 33 ที่นั่ง จากที่นั่งวุฒิสภาทั้งหมด 100 ที่นั่ง รวมทั้งจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐ  39 แห่งด้วย ทางเว็บไซต์สื่ออย่างฟอร์จูนคาดการณ์ว่า ครานี้จะเป็นทีของพรรคเดโมแครตบ้าง เพราะเมื่อประเมินและดูแนวโน้มกระแสต่างๆจากการเลือกตั้งพิเศษในหลายรัฐเมื่อปลายปีที่แล้ว กระแสของรีพับลิกันของนายโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ค่อยจะโชติช่วงสักเท่าไหร่ ความนิยมเริ่มจางหาย ประชาชนเริ่มยี้ แต่ถึงอย่างไรพรรคเดโมแครตจะมากแรง แต่ก็ยากที่จะแซงทางโค้งเข้าไปครองเสียงข้างมากในสภาได้ ซึ่งกระแสโลกจะเป็นอย่างไรการเมืองของสหรัฐส่งผลอย่างยิ่ง หลายคนอาจจะมองว่าไม่เกี่ยวกับเรา แต่จริงๆแล้วเกี่ยวกับเราอย่างยิ่ง เพราะสหรัฐพลิกตัวเปลี่ยนนโยบายต่างๆเหมือนไหร่ส่งผลกระเทือนต่อโลกเมื่อนั้น

ยุโรปผู้กว้างขวาง

     ในส่วนของยุโรปนั้นสถานการณ์ต่างๆน่าจับตาและชวนให้พิจารณามากเลยทีเดียว เพราะอังกฤษได้ขอถอนตัวจาก EU ซึ่งเราก็ยากที่จะรู้ได้ว่าการขอลาจากกันในครั้งนี้จะเป็นการจากลาด้วยมิตรไมตรีหรือไม่ ทางด้านอังกฤษเองก็สั่นคลอนภายในกันพอสมควรอยู่แล้วระหว่างการเมืองภายในตั้งแต่เรื่องอื้อฉาวต่างๆของรัฐสภาอังกฤษที่แพร่ออกมาเป็นระยะๆทั้งการคุกคามทางเพศที่เกิดขึ้นในรัฐสภาอังกฤษ ทั้งการเข้าเว็บโป๊ของสมาชิกสภา เรียกว่าอังกฤษช่วงนี้อยู่ในขาลง(ไม่รู้ปีนี้จะเป็นปีชงของทางอังกฤษหรือเปล่า)

     ในส่วนของประเทศอิตาลีปีนี้ก็จะมีการเลือกตั้งด้วย ซึ่งอิตาลีนั้นเป็นประเทศที่มีอิทธิพลทางด้านเศรษฐกิจต่อ EU ใหญ่เป็นอันดับ 3 ใครได้ตำแหน่งก็ย่อมส่งผลสั่นคลอนต่อ EU ด้วยกันทั้งสิ้น ยิ่งโดยเฉพาะพรรคไฟว์สตาร์ มูฟเมนต์ของนายลุยจิ ดิมาอิโอ ผู้นำหนุ่มวัย 31 ปี อันนี้ยิ่งน่ากลัวเพราะเขาผู้นี้มีความคิดต่อต้าน  EU อยู่พอสมควร ชะตากรรมของ EU จึงอยู่ในกำมือการเลือกตั้งครั้งนี้ของอิตาลี

อินเดียกับปีทองของพวกเขา

     มีการคาดการณ์กันว่า ปีนี้จะเป็นปีที่ดีของเศรษฐกิจอินเดีย ภาคเศรษฐกิจของอินเดียจะเติบโตที่ร้อยละ 7.4 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 6.7 ในปีที่แล้ว ถ้าเป็นจริงดังนั้นจะถือว่าอินเดียเป็นเขตเศรษฐกิจที่โตเร็วที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ซึ่งนี้ก็คือผลลัพธ์จากการปฏิรูปประเทสในหลายๆด้านตั้งแต่ปีที่ผ่านมานั่นเอง

สถานการณ์ของตะวันออกกลาง

     ในส่วนของประเทศต่างๆในตะวันออกกลาง สิ่งที่ต้องจับตาก็คือ เรื่องของน้ำมัน เพราะความขัดแย้งต่างๆที่เกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆในตะวันออกกลางส่งผลต่อราคาน้ำมันในตลาดโลก และสถานการณ์ความขัดแย้งต่างๆในตะวันออกกลางก็ดูไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นและในทางกลับกันอาจจะแย่ลงกว่าเดิมด้วย นั่นจึงทำให้ปีนี้ราคาน้ำมันจะมีความผันผวนสูง ซึ่งเรื่องนี้ก็กระทบเราด้วยส่วนหนึ่งแน่นอน

ช้อปปิ้งออนไลน์จะเติบโตมากขึ้น

     จากการกลับมาผงาดของ Amazon ในฐานะผู้นำการช้อปปิ้งออนไลน์ก็ทำให้โลกจับตามองมากยิ่งขึ้น จากการใช้กลยุทธ์สุดเฉียบของ Amazon ในการซื้อกิจการโฮลฟู้ดส์ (Whole Foods) ซูเปอร์มาร์เก็ตไฮเอนด์ที่เน้นอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งทำให้คู่แข่งไปไม่เป็นเลย เพราะ Amazon เคยเก่งอยู่แต่กับการช้อปออนไลน์ แต่พอทุ่มซื้อโฮลฟู้ดส์ทำให้ตนเองมีหน้าร้าน การจัดซื้อและส่งสินค้าจึงสามารถทำได้รวดเร็วกว่าเดิมมากนั่นทำให้ช้อปปิ้งออนไลน์กลับมาบูมอีกครั้งและในปีนี้จะเติบโตมากขึ้น นั่นจึงทำให้เจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้ง Amazon ขยับขึ้นแท่นมหาเศรษฐีระดับ 1 ของโลกแซงหน้าบิล เกตส์ไปได้เรียบร้อย

รถ ECO จะมาแรงในปีนี้

     เทรนด์รักษโลกและสิ่งแวดล้อมกำลังเป็นกระแสที่ได้รับความสนใจจากคนรุ่นใหม่ ทำให้รถประเภท ECO รถยนต์ไฟฟ้า หรือกล่าวโดยรวมก็คือ ยานพาหนะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จะได้รับความสนใจมากขึ้นและน่าจะมาแรงในต่างประเทศ อีกกระแสโลกสำหรับในเรื่องยานยนต์และพาหนะ ก็คือรถยนต์บินได้ น่าจะเป้นอีกหนึ่งเรื่องที่ถูกพูดถึงมากขึ้นในปีนี้ เพราะขณะนี้หลายๆบริษัทต่างเร่งพัฒนา อย่างทางด้านอูเบอร์ ที่นำร่องโครงการแท็กซี่บินได้ในลอสแองเจลิส ของสหรัฐฯ ส่วนค่ายอัลฟาเบต บริษัทแม่ของGoogle ก็มี “คิตตี้ ฮอว์ค” ซึ่งเป็นยานพาหนะบินได้เช่นกัน และบริษัท “เทสลา” ของนายอีลอน มัสก์ เจ้าของไอเดียสุดล้ำมากมาย ก็กำลังพัฒนารถยนต์บินได้อยู่เช่นกัน

เทรนด์โลกในการไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต

     ปีนี้คาดกันว่า ไลฟ์สไตล์และรูปแบบการรับชมความบันเทิงต่างๆของผู้คนจะเปลี่ยนไปมาก นับเป็นความสั่นคลอนอย่างยิ่งของวงการโทรทัศน์และเคเบิ้ลทีวี เพราะคนจะดูทีวีกันน้อยลงแต่จะหันไปรับชมเนื้อต่างๆ ผ่านระบบ Streaming บนโลกอินเทอร์เน็ตแทน ซึ่งจากการสำรวจในอเมริกาพบว่ามีประชาชนถึง 22 ล้านคนยกเลิกการสมัครสมาชิกเคเบิลทีวี ซึ่งตัวเลขนี้สูงขึ้นจากปีก่อนหน้ามากทีเดียว

     นอกจากนั้นแล้วเทรนด์รักสุขภาพก็จะมาแรงอยู่เหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมคือเรื่องของสินค้าและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพก็จะได้รับความสนใจจากผู้คนกันมากขึ้น ซึ่งปีนี้เราจะเห็นคนใช้แอพพลิเคชั่นเพื่อสุขภาพกันสูงมากขึ้นนั่นเอง นี่จึงเป็นสิ่งที่น่าจับตาและน่าคิดสำหรับคนที่จะพัฒนาแอพพลิเคชั่น

     อีกหนึ่งกระแสที่น่าจับตาก็คือ กระแส E-sport การเล่นเกมจะไม่ใช่เรื่องเล่นๆอีกต่อไป เพราะปีนี้มีแนวโน้มจะเติบโตและได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น โดยบริษัทวิจัย “นิวซู” ประเมินว่า อุตสาหกรรมE-sport มีมูลค่าราว 660 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 21,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มจะขยายตัวร้อยละ 40 ในปีนี้