สหภาพแรงงานธนาคารไทยพาณิชย์ได้มีการออกแถลงการณ์ จะมีการนัดรวมตัวประท้วงและเรียกร้องความเป็นธรรมจากผู้ใหญ่ในธนาคาร จากกรณีพนักงานได้รับผลกระทบจากนโยบายของทางธนาคารที่จะปรับโหมดเข้าสู่การเป็นธนาคารดิจิตอลอย่างเต็มตัว ซึ่งจะทำให้จำเป็นต้องยุบสาขาของธนาคารไทยพาณิชย์ถึง 700 สาขา และจะต้องปลดพนักงานแบงก์ออกถึง 1แสน 2 หมื่นคน อีกทั้งสหภาพแรงงานธนาคารไทยพาณิชย์ยังขอร้องให้ผู้ใหญ่ในธนาคารทบทวนเรื่องความไม่เป็นธรรมในการขึ้นเงินเดือนอีกด้วย ซึ่งทางสหภาพแรงงานธนาคารไทยพาณิชย์จะนัดรวมตัวเพื่อเรียกร้องที่ธนาคารไทยพาณิชย์สาขาใหญ่ทุกวัน เวลา 12.00 – 12.45 น. ทุกวันจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม
เทคโนโลยีมีประโยชน์กับเราจริงหรือไม่ ? เป็นคำถามที่ยังมีคำตอบคลุมเครืออยู่ ปีที่แล้วเราเคยกล่าวถึงเรื่อง AI จะเข้ามาแย่งงานมนุษย์ หลายคนบอกว่าเป็นเรื่องตลก คิดไกลเกินไป เมืองไทยเรายังห่างไกลจากเรื่องเหล่านี้ แต่กรณีของธนาคารไทยพาณิชย์ที่เกิดขึ้นนี้ เริ่มทำให้เห็นว่าเรื่องของเทคโนโลยีจะเข้ามาแย่งงานมนุษย์นั้นไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป นักธุรกิจใหญ่วิสัยทัศน์ไกล รวมทั้ง CEO ระดับโลก มากมายได้เริ่มแสดงความกังวลต่อปัญหาเหล่านี้แล้ว ล่าสุดที่งานประชุมเศรษฐกิจโลก เวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรั่ม 2018 (World Economic Forum 2018 ) แจ็ก หม่า (Jack Ma) ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัทอาลีบาบา (Alibaba) ยังได้มีการกล่าวถึงประเด็นเทคโนโลยี และ AI จะเข้ามาแย่งงานมนุษย์ด้วยความเป็นห่วงอีกด้วย
เทรนด์ดิจิตอลแบงกิ้ง (Digital Banking) หรือธนาคารดิจิตอล เป็นอนาคตใหม่ของโลกการเงิน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ ธนาคารต่างๆเริ่มปรับระบบมาใช้ระบบดิจิตอลนี้มาสักพักใหญ่ๆแล้ว และนั่นก็เป็นการส่งสัญญาณบอกพนักงานธนาคารกลายๆแล้วเช่นกันว่า “คุณต้องปรับตัวนะ” โลกเปลี่ยนไปเร็วกว่าที่คิด แต่มนุษย์เราปรับตัวไปช้ากว่าโลกหรือเปล่า ? เรื่องนี้มันตอบยากจริงๆ
วันนี้ทุกอย่างในโลกอยู่ภายใต้คำว่า Fast Forward จึงทำให้ผู้กุมอำนาจใหญ่ไม่ว่าจะวงการไหนเร่งที่จะโตให้ทันการเปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งใครไวกว่าก็เท่ากับว่าได้กำไรเร็วกว่า รวยเร็วกว่า แต่ในอีกด้านหนึ่งของคนที่เป็นพนักงานไม่มีอำนาจออกสิทธิ์ออกเสียงอะไร ก็ได้แต่ใช้ชีวิตมนุษย์เงินเดือนต่อไปวันต่อวัน ก้มหน้าก้มตาทำงานเลี้ยงครอบครัวไปเรื่อยๆ ไม่ได้สนใจว่าโลกมันไปเร็วแค่ไหน เพราะจะไปสนใจมันมากทำไม วันๆทำงานก็หัวหมุนอยู่แล้ว ต้องพบเจอลูกค้าและกรณีต่างๆที่พาให้เครียด วันแล้ววันเล่าก็ไม่มีเวลาจะไปสนใจอะไรโลกแล้ว จึงอยู่กับชีวิตแบบนี้ต่อไปโดยไม่เตรียมตัวเตรียมใจอะไร และเมื่อ 2 สถานะ 2 ความคิด เดินกันไปคู่ขนานโดยที่ต่างฝ่ายต่างไม่มองกันและกันเลย ความเห็นอกเห็นใจและความเข้าใจจึงไม่เกิดขึ้น ผู้ใหญ่จะผลักดันองค์กรให้เข้ากับเทรนด์โลก ตอบโจทย์ความสะดวกสบายของลูกค้า ส่วนพนักงานที่เคยเป็นเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร เมื่อหมดความสำคัญก็ถูกปล่อยทิ้งและลอยแพ โดยที่ตัวเองไม่ได้เตรียมตัวอะไรล่วงหน้ามาก่อนเลย
สำหรับกรณีของธนาคารไทยพาณิชย์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นเนื่องจาก นายอาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารไทยพาณิชย์ ออกมาเปิดเผยต่อสื่อว่า ระหว่างปี 61-63 นี้ทางธนาคารไทยพาณิชย์จะมีการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ ปรับแผนธุรกิจใหม่เกือบทั้งหมด จะปรับลดสาขาที่ให้บริการ และปรับธนาคารศูนย์ธุรกิจ หรือบีซีเนส เซ็นเตอร์ รองรับการให้บริการสำหรับผู้ประกอบการโดยเฉพาะ SME นั่นเท่ากับว่าสาขาธนาคารจะลดลงเหลือเพียง แค่ 400 แห่ง จาก 1,100 แห่ง ซึ่งนั่นก็เท่ากับว่าจะต้องมีการปรับลดพนักงานลงไปเพื่อให้มีสัดส่วนที่เหมาะสมกับขนาดขององค์กรที่เปลี่ยนไป การเปิดเผยข้อมูลนี้สร้างความสั่นคลอนในอาชีพและตำแหน่งหน้าที่ของพนักงานธนาคารไทยพาณิชย์มาก จึงนำไปสู่การเรียกร้องจากสหภาพแรงงานธนาคารไทยพาณิชย์ที่ต้องการความชัดเจนในเรื่องนี้ ซึ่งเราหวังว่าคงจะหาทางออกกันได้