ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้มีการขอและโน้มน้าวให้กองทัพสหรัฐฯ ประจำการในซีเรียต่อไปเป็นระยะยาว เพื่อควบคุมสถานการณ์ให้เรียบร้อยอย่างแท้จริง ซึ่งจากเดิมสหรัฐฯมีแนวทางที่จะถอนทัพออกจากซีเรียอย่างเร่งด่วน
นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้มีการแถลงต่อสื่อว่า ตนได้มีการกล่าวในเชิงขอให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯระงับคำสั่งการถอนกองกำลังทหารออกจาซีเรียในช่วงนี้ และอยากให้กองทัพสหรัฐฯปฏิบัติหน้าที่ในซีเรียต่อไปในระยะยาวเพื่อควบคุมสถานการณ์ให้เรียบร้อยอย่างแท้จริงเสียก่อน
ด้านนายโดนัลด์ ทรัมป์ หลังได้ส่งกองทัพสหรัฐฯ อังกฤษ และฝรั่งเศสร่วมกันโจมตีทางอากาศใส่ซีเรียไปแล้ว เขาก็มีแนวทางและจุดยืนว่าหลังเสร็จสิ้นภารกิจนี้แล้ว เขาต้องการให้กองทัพสหรัฐฯ กลับประเทศให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งทำให้ในตอนนี้ เราไม่อาจคาดการณ์ได้ว่า โดนัลด์ ทรัมป์จะตัดสินใจอย่างไรต่อไป จะยืนยันจุดเดิมคือส่งทหารกลับ หรือจะทำตามคำขอร้องของเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส
แต่รายงานข่าวทางการทูตนั้น ยืนยันมาค่อนข้างชัดเจนว่า แนวโน้มกองทัพสหรัฐฯจะอยู่ในซีเรียต่อไปนั้นก็มีสูง เพราะว่านางนิกกี เฮลีย์ ทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติสหรัฐฯ กล่าวว่าจะไม่ถอนทัพออกจากซีเรียจนกว่าบรรลุเป้าหมาย 3 ข้อที่สหรัฐฯ ตั้งไว้ คือ
1. ไม่มีการใช้อาวุธเคมี ซึ่งเป็นภัยต่อสหรัฐฯ
2. กลุ่มไอเอสพ่ายแพ้แล้ว
3. มีจุดได้เปรียบในการเฝ้าดูว่าอิหร่านกำลังทำอะไร
ท่าทีของสหรัฐฯในตอนนี้ที่ชัดเจนก็คือ เตรียมคว่ำบาตรบริษัทของรัสเซียที่มีส่วนเกี่ยวกับนายบาชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีซีเรีย ซึ่งจะถือเป็นการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียที่สนับสนุนรัฐบาลซีเรียเป็น รอบที่ 2 ในรอบ 1 เดือน