ในอาเซียนของเรานั้นเวียดนาม ถือว่าเป็นประเทศที่เนื้อหอมมากในแง่ของการลงทุนจากต่างชาติ ซึ่งปัจจุบันเวียดนามเต็มไปด้วย โรงงาน โรงแรม และการทำอุตสาหกรรมหลายอย่างอยู่ที่นั่น นักลงทุนมากมายต่างให้ความสนใจไปทำธุรกิจอยู่กับเวียดนามมากขึ้น ล่าสุดมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของสหรัฐอย่างมหาวิทยาลัยคอร์แนล ก็ได้เผยว่าจะมีการสร้างมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งใหม่ในฮานอยของเวียดนามด้วย
เรื่องของการศึกษาเป็นเทรนด์ที่โลกให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะการศึกษาสามารถเปลี่ยนชีวิตคนและสามารเปลี่ยนโลกได้ ทางเวียดนามก็ตระหนักถึงเรื่องนี้ดี และขณะนี้เวียดนามเองก็เป็นประเทศที่ถูกขับเคลื่อนไปด้วยภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมจากต่างประเทสที่เข้ามาลงทุน การส่งเสริมและต่อยอดความรู้ด้านธุรกิจจึงนับว่าเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับเวียดนามในขณะนี้ วินห์กรุ๊ป กลุ่มทุนผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของเวียดนาม จึงได้มีการพูดคุยและเจรจากับมหาวิทยาลัยคอร์แนลของสหรัฐอเมริกาถึงการพัฒนาด้านการศึกษาในเวียดนามร่วมกัน และในที่สุดก็ได้ “โครงการมหาวิทยาลัยวินห์” ขึ้นมา ซึ่งมหาวิทยาลัยวินห์จะเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนในฮานอย เปิดสอนวิชาบริหารธุรกิจ การบริการและอสังหาริมทรัพย์ วิศวกรรมเทคโนโลยี และวิทยาศาสตร์สุขภาพ โดยจะเริ่มรับนักศึกษาชุดแรกเข้าเรียนในปี 2020
โครงการนี้นับว่าเป็นแนวทางการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการศึกษาที่จะสามารถกลายเป็นการสึกษาที่มีคุณภาพระดับโลกได้อย่างไม่ยากเย็น ในการร่วมมือจัดตั้งมหาวิทยาลัยวินห์ของเวียดนามและคอร์แนลนั้น ถือเป็นการร่วมมือกันของวิทยาลัยบริหารธุรกิจ เอสซี จอห์นสัน มหาวิทยาลัยคอร์แนล ซึ่งทางวิทยาลัยจะอำนวยความสะดวกในเรื่องของบุคลากรผู้สอนในส่วนของวิชาการบริหารธุรกิจและวิศวกรรม นอกจากนี้ยังสนับสนุนวินห์กรุ๊ปในเรื่องของการจัดการพื้นที่ การพัฒนาหลักสูตรและการรับสมัครอาจารย์ด้วย
สำหรับมหาวิทยาลัยคอร์แนลเองแล้วได้รับการจัดอันดับโดย QS World University Rankings ประจำปี 2018 อยู่ในอันดับที่ 14 ของโลก และในสาขาบริหารธุรกิจ อยู่ในอันดับที่ 41 ของโลก การเข้ามาเปิดมหาวิทยาลัยในเวียดนามแบบนี้ก็เท่ากับเป็นก้าวสำคัญของเวียดนามทีเดียวที่จะเจริญรุดหน้าไปอีก เพราะในไม่ช้านักศึกษาที่จบจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้จะมีส่วนช่วยพัฒนาเวียดนามในการแข่งขันในระดับภูมิภาคและระดับโลกต่อไป ซึ่งทางเวียดนามระบุว่า ฤดูใบไม้ผลินี้ ทางมหาวิทยาลัยจะเริ่มเปิดรับสมัครบุคลากรของมหาวิทยาลัย และจะเปิดภาคเรียนให้ได้ภายในปี 2020 คาดว่าจะมีนักศึกษาประมาณ 300 คนในปีการศึกษาแรกส่วนหลักสูตรการเรียนการสอนก็จะเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด
อ้างอิง : saigoneer
