ยังคึกคักอยู่ทั้งกรุงเทพฯและปริมณฑลกับอสังหาฯโครงการใหม่

     แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจโดยรวมจะดูเหงาๆลงไปบ้าง แต่ทางด้านของวงการอสังหาริมทรัพย์ก็ยังคงมีความคึกคักและตื่นตัวอยู่ เรียกว่าสวนทางกระแสเศรษฐกิจอยู่ไม่น้อย ทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑลตอนนี้มีอสังหาริมทรัพย์โครงการใหม่ๆเปิดตัวเพิ่มขึ้นกันอย่างมากมาย ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREAได้มีการสำรวจข่าวคราวความเคลื่อนไหวในวงการด้านการลงทุนเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาพบว่า มีโครงการอสังหาฯเปิดตัวใหม่กว่า 40 โครงการ โดยมีจำนวนหน่วยขายรวมอยู่ที่ 12,302 หน่วย และมีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 45,501ล้านบาทเลยทีเดียว

จำนวนหน่วยขายของอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นแบบสวนกระแส

     ถ้าพิจารณาจากหน่วยขายของอสังหาฯที่กล่าวมา จะเห็นว่าเพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคมมากถึงจำนวน 5,927 หน่วยกันเลยทีเดียว ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วก็อยู่ที่ 93% ที่ตัวเลขหน่วยขายเพิ่มขึ้นเพราะด้วยมีโครงการใหม่ๆเกิดขึ้นมากนั่นเอง

จำนวนขายเพิ่มตัวเลขมูลค่าอสังหาฯก็เพิ่มด้วย

     ตัวเลขไม่ได้เพิ่มแค่เฉพาะในส่วนของจำนวนหน่วยขายเท่านั้น ตัวเลขของมูลค่ารวมของอสังหาริมทรัพย์ในตอนนี้ก็เพิ่มขึ้นด้วยถ้าเทียบจากเดือนกรกฎาคม ซึ่งอยู่ที่ 26,976 ล้านบาท แต่พอขยับเข้ามาที่เดือนสิงหาคมตัวเลขขยับขึ้นมาที่ 45,501ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคมถึง 18,524 ล้านบาท คิดเป็น 69% เลยทีเดียว ซึ่งมูลค่าของประเภทที่อยู่อาศัยไล่เรียงจากมูลค่ามากสุดไปหาน้อยสุดตามลำดับได้ดังนี้

• อาคารชุด 22,905 ล้านบาท
• ทาวน์เฮ้าส์ 14,106 ล้านบาท
• บ้านเดี่ยว 6,384 ล้านบาท

วงการอสังหาฯตั้งใจเจาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง

     ขณะนี้ความต้องการที่อยู่อาศัยของกลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางมีมากขึ้น เนื่องจากทางภาครัฐได้มีการดำเนินนโยบายพัฒนาที่ดินและการคมนาคมมากขึ้น ความเจริญและความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิตและการทำงาน จึงมากระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ผู้มีรายได้น้อยจนถึงปานกลางที่เป็นคนรุ่นใหม่ก็ต้องการที่จะแยกตัวออกมาเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตมากขึ้น จึงทำให้ผู้ประกอบการด้สนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หันมาให้ความสนใจเจาะกลุ่มตลาดกลุ่มนี้มากขึ้น อสังหาฯส่วนมากที่พัฒนาขึ้นมาจึงอยู่ในรูปแบบอาคารชุด หรือคอนโด ซึ่งราคาโดยเฉลี่ยก็จะอยู่ที่ 2-3 ล้านบาท หากเป็นบ้านเดี่ยวราคาประมาณ 3-5 ล้านบาท ส่วนถ้าเป็นทาวน์เฮ้าส์ ราคาประมาณ 2-3 ล้านบาทเช่นกัน ซึ่งเมื่อผู้ประกอบการเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมาย โดยหันมาให้ความสนใจกับลูกค้ากลุ่มผู้มีรายได้น้อย – ปานกลางจึงทำให้ราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยในเดือนสิงหาคมลดลงกว่า 3.699 ล้านบาท หรืออยู่ที่ 12.6%  ถ้าเปรียบเทียบกับเดือนกรกฎาคม

บริษัทใหญ่ใดบ้างที่เรียกความสนใจเปิดตัวกันในช่วงนี้

     โดยส่วนใหญ่แล้วก็ล้วนเป็นบริษัทมหาชน ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ทั้งสิ้น ซึ่งมีอยู่ 9 บริษัทใหญ่ด้วยกัน ซึ่งสัดส่วนก็ลดหลั่นกันไปตามลำดับ คือ

1.บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)

2.บริษัท เจ.เอส.พี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)

3.บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

4.บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)

5.บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)

6.บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)

7.บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)

8.บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)

9.บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)

เปิดตัวใหม่กันมากขึ้นแต่ก็ยังน้อยกว่าปีที่แล้ว

     แม้ว่าตัวเลขการตื่นตัวของอสังหาริมทรัพย์ในสิงหาคม 60 จะดูเพิ่มขึ้นก็จริง แต่ถ้านำตัวเลขนี้ไปเปรียบเทียบกับเดือนสิงหาคม ปี 59 จะพบว่าตัวเลขน้อยกว่า ปี 59 คือ สิงหาคม 60 เปิดตัวน้อยลงกว่าสิงหาคม ปี 59 แต่ก็น้อยกว่าไม่มาก เปิดตัวน้อยกว่าปี 59 อยู่ 1 โครงการเท่านั้น ดังนั้น ใครที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยต้องคอยติดตามความเคลื่อนไหวกันดูอย่างใกล้ชิด ไม่แน่อาจจะมีโครงการเยี่ยมๆราคาโดนใจมาเปิดใกล้ๆที่ทำงานของคุณเร็วๆนี้ก็ได้