จะว่าไปแล้วฤดูหนาวในบ้านเรากับความรัก ก็มีแง่มุมที่คล้ายกันอยู่ไม่น้อย ฤดูหนาวในไทยเป็นแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ ส่วนความรักนั้นก็เป็นดั่งเช่นสายลมที่พัดผ่านมาแล้วก็พัดผ่านไป บางทีก็นำความร้อนรนมาให้ และบางทีก็ทำให้หนาวเหน็บจับขั้วหัวใจ ในบรรยากาศหนาวๆเย็นๆแบบนี้การมีใครสักคนให้กอดมันก็คงจะดีไม่น้อย แต่แค่นั้นมันยังฟินไม่พอหรอก ต้องมีภาพยนตร์รักโรแมนติกมานั่งดูเคียงคู่กันไปด้วยสิ ถึงจะฟินจริงๆ เพราะภาพยนตร์รักโรแมนติกนี่แหละที่จะช่วยให้คุณทั้งอินเข้าไปในบทบาทของเรื่อง และเผลอๆคุณอาจจะกอดกันแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว เราขอแนะนำภาพยนตร์รักโรแมนติกเรื่อง Eternal Sunshine of the Spotless Mind – ลบเธอ…ให้ไม่ลืม ที่คุณควรดูในช่วงอากาศหนาวเย็นแบบนี้
ความรักมีแง่มุมทั้งที่ดีและเจ็บปวด แต่ยามใดที่เจ็บปวดจากความรัก ยาใดก็ไม่อาจที่จะรักษาให้หายได้ มีเพียงเวลาเท่านั้นที่จะช่วยเยียวยา และก็ไม่มีใครบอกได้ว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหน ถึงจะเปลี่ยนเรื่อง “รัก” อันเจ็บปวดให้กลายเป็นเรื่องขำๆในชีวิตได้ เพราะเราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันไม่เคยเกิดขึ้น แม้พยายามจะหนีและพยายามจะลืมแต่ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องง่ายที่จะทำได้ในทันที และก็ไม่มีใครการันตีได้ว่าความทรงจำอันเจ็บปวดเหล่านั้นจะไม่ตามมาหลอกหลอนเราอีก ถ้าหากมีเครื่องลบความจำจริงๆก็คงจะดี เพราะเราจะได้ Delete ความรู้สึกและความทรงจำอันเจ็บปวดแบบนั้นออกไปให้หมด
Eternal Sunshine of the Spotless Mind – ลบเธอ…ให้ไม่ลืม เป็นภาพยนตร์รักที่มีแนวคิดมาจากทัศนคติเกี่ยวกับความรักที่กล่าวมาข้างต้น เนื้อเรื่องว่าด้วย ตัวละครหลักอย่าง โจเอลที่อยู่ๆก็ตัดสินใจโดดงานเอาดื้อๆ อย่างไม่มีเหตุผล แล้วก็ไปนั่งรถไฟเพื่อเดินทางไปยังชายทะเล และที่นั่นเขาได้พบหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งเธอผู้นี้ก็เดินเล่นบนชายหาดอย่างโดดเดี่ยวเหมือนเขาเช่นกัน อาจเป็นเพราะความบังเอิญหรือพรหมลิขิตก็ไม่มีใครทราบได้ เขาพบเธอผู้นั้นบนรถไฟอีกครั้ง ทั้งคู่ได้ทำความรู้จักกัน โจเอลจึงรู้ว่าเธอคนนี้ชื่อ คลีเมนไทน์ ความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของคนทั้งคู่เป็นไปอย่างรวดเร็วโดยที่เขาและเธอก็ไม่รู้สาเหตุว่าทำไม หลังจากออกเดทด้วยกันหลายหน โจเอลก็ไปหยุดรถที่หน้าอพาร์ตเมนต์ของคลีเมนไทน์อีกครั้ง และนั่นคือจุดย้อนกลับของหนังที่พาเราทุกคนกลับไปสู่อดีตของ โจเอลและคลีเมนไทน์ ซึ่งที่คนทั้งคู่รู้สึกถูกชะตากันอย่างรวดเร็วนั้น ก็เพราะทั้งคู่มีอดีตร่วมกัน เขาและเธอเคยรักกันมาก่อน มีความทรงจำที่ดีและร้ายต่อกันอย่างมากมาย จนความรักของเขาและเธอเดินทางมาจนถึงปลายทาง คลีเมนไทน์เป็นฝ่ายลบความทรงจำที่มีต่อโจเอลทิ้งไปทั้งหมดก่อน เมื่อโจเอลทราบภายหลังเขาจึงตัดสินใจทำเช่นเดียวกันกับเธอบ้าง แต่…
ในขั้นตอนและกระบวนการลบความทรงจำของเขา มันทำให้เขาได้ย้อนกลับไปเห็นภาพในหัว(ใจ) ที่มีคลีเมนไทน์อยู่ในภาพเหล่านั้นด้วย ทั้งช่วงเวลาที่แสนนี้ รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ความห่วงใยและปรารถนาดีต่อกัน แม้กระทั่งหยาดน้ำตา เขาเพิ่งจะรู้เดี๋ยวนั้นเองว่าทั้งหมดนี้ มันเป็นสิ่งที่มีค่ามหาศาลสำหรับเขาเกินกว่าที่จะเสียมันไปจริงๆแต่มันก็สายเกินไปเสียแล้วสำหรับที่จะเรียกสิ่งเหล่านั้นคืนมาอีกครั้ง
Eternal Sunshine of the Spotless Mind – ลบเธอ…ให้ไม่ลืม ได้รับรางวัลออสการ์สาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม (Best Original Screenplay) ด้วยเพราะมีความโดดเด่นในเรื่องของการนำเสนอและการเล่าเรื่อง แบบไม่เรียงลำดับไปมา มีการตัดสลับ เป็นผลงานเขียนบทโดย Charlie Kaufman นักเขียนบทภาพยนตร์มือทอง และกำกับโดยผู้กำกับมากฝีมืออย่าง Michel Gondry ส่วนด้านการแสดง ก็ได้ 2 นักแสดงชั้นแนวหน้าอย่าง Jim Carry มารับบทโจเอล และ Kate Winslet มารับบท คลีเมนไทน์ และสิ่งที่อยากจะปิดท้ายก็คือ message จากภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่สื่อให้เราได้รู้ว่า
เราจะทำสิ่งใหม่ให้ดีขึ้นได้อย่างไร ถ้าเราไม่หลงเหลือความผิดพลาดเดิมๆให้เราได้เรียนรู้ไว้บ้างเลย