การเดินทางมาเยือนและลงนามความร่วมมือบันทึกความเข้าใจ 4 ฉบับระหว่างหน่วยงานภาครัฐของไทยกับ อาลีบาบา กรุ๊ป ของ ‘แจ็ค หม่า’ ในครั้งนี้ทำให้ไทยเราได้ลุ้นในการเดินหน้าทางเศรษฐกิจขึ้นอีกหลายเท่าตัว นี่เป็นสัญญาณที่ดีในภาคเศรษฐกิจและการทำธุรกิจในหลายๆด้าน ซึ่งกลไกการผลักดันการลงทุนต่างๆในไทยตามความร่วมมือบันทึกความเข้าใจ 4 ฉบับนั้น จะถูกขับเคลื่อนผ่าน 3 บริษัทใหญ่อันเป็นฟันเฟืองสำคัญของอาณาจักรธุรกิจของแจ็ค หม่า ซึ่งเราจะขอเจาะเข้าไปดูว่า 3 ฟันเฟืองสำคัญของแจ็ค หม่า เป็นอย่างไรกันบ้าง
1.ไช่เหนี่ยว(CNS)
นี่เป็นบริษัทที่นับเป็นฟันเฟืองสำคัญในธุรกิจ อี-คอมเมิร์ซ ของอาลีบาบา กรุ๊ป โดยไช่เหนี่ยวก่อตั้งในปี 2556 เป็นการร่วมทุนของอาลีบาบากับอีก 8 พันธมิตรธุรกิจ ด้วยความมุ่งหมายให้บริษัทแห่งนี้กลายเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการขนส่งและกระจายสินค้าที่เร็วและทรงประสิทธิภาพจากผู้ผลิตไปถึงมือลูกค้าปลายทาง ซึ่งเป็นไปได้ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ อันจะกลายเป็นมาตรฐานโลกต่อไปในอีกไม่ช้า และเทคโนโลยีที่นำมาใช้ก็มีตั้งแต่เทคโนโลยีหุ่นยนต์ การนำระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้เป็นต้น ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ถูกนำมาใช้ทดแทนแรงงานจากมนุษย์ เพิ่มประสิทธิภาพทำงานมากขึ้นกว่าเดิมถึง 3 เท่า อีกทั้งยังถูกต้องแม่นยำกว่าเดิมหลายเท่าตัว ซึ่งเป้าหมายของทางบริษัทไช่เหนี่ยวนั้นต้องการจะส่งพัสดุและสินค้าระหว่างเมืองใหญ่ ๆ 2,000 แห่งทั่วประเทศจีน ให้ได้ภายใน 24 ชั่วโมง และจัดส่งทั่วโลกภายใน 72 ชั่วโมง และปัจจุบันเป้าหมายที่ตั้งไว้ก็ใกล้จะเป็นความจริงมากขึ้นทุกทีแล้ว เพราะตอนนี้พัสดุกว่า 25 ล้านชิ้น ได้ถูกส่งถึงมือผู้คนอย่างรวดเร็วภายในวันเดียว
2.บริษัท เจ้อเจียง ฟลิกกี้ เน็คเวิร์ค เทคโนโลยี จำกัด
ฟันเฟืองตัวที่ 2 ของอาลีบาบาก็คือบริษัทนี้ เป็นบริษัทสำหรับธุรกิจด้านการท่องเที่ยวของอาลีบาบา เป็นแพลตฟอร์มที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้มีความสะดวกสบายและประหยัดค่าใช้จ่าย เช่น ในการจองตั๋วเครื่องบิน ทั้งเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศ การจำหน่ายตั๋วโดยสารรถไฟ การสำรองที่พักในโรงแรมหรือเกสต์เฮาส์ การวางแผนเดินทางท่องเที่ยวทั้งภายในประเทศจีนและต่างประเทศ และยังมีบริการอีกหลายๆด้าน
3.ทีมอลล์ดอตคอม (Tmall.com)
เป็นธุรกิจในเครือ อาลีบาบา กรุ๊ป ที่ดำเนินกิจการเว็บไซต์ มีจุดเด่น คือ สินค้าบนเว็บนี้เป็นสินค้าที่คัดสรรมาแล้วว่า มีลิขสิทธิ์เป็นของแท้ บริษัทเน้นชื่อเสียงตรงจุดนี้ ทำให้สินค้าจากเว็บทีมอลล์มีราคาสูงตามไปด้วย สอดคล้องกับคุณภาพที่ดี และบริษัทนี้นี่เองที่ทางแจ็ค หม่า จะมอบหมายให้ดูแลเรื่องการนำข้าวไทยไปขายออนไลน์
ซึ่งดูแล้ว 3 บริษัทในเครือ อาลีบาบา กรุ๊ปนี้ แม้จะทำงานดูแยกสาขากัน แต่ก็มีความสอดคล้องต่อเนื่องกันอย่างเป็นระบบ หากไทยเราได้รับการผลักดันสนับสนุนจากทั้ง 3 บริษัทนี้ เชื่อแน่ว่าโอกาสโตทางเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้นอีกมากเลยทีเดียว