นำหน้าและนำเทรนด์โลกเสมอสำหรับประเทศพี่ใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกา ล่าสุดมหาวิทยาลัยนอร์ทเทิร์น มลรัฐมิชิแกนในอเมริกา ได้เปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรีสาขาใหม่ล่าสุด คือ สาขาเคมีพืชสมุนไพร(Medical plant chemisty) ซึ่งเน้นไปที่การศึกษาลงลึกในพืชสมุนไพรหลายชนิด แต่ที่น่าสะดุดที่สุดก็คือจะมีการศึกษา “กัญชา” โดยเฉพาะอย่างละเอียดในฐานะของยารักษาโรคด้วย
อย่างที่ทราบกันดีว่า “กัญชา”นั้น ถูกจัดว่าเป็นสารเสพติดประเภทหนึ่ง ซึ่งในบ้านเราผิดกฎหมายแน่นอน แต่ที่สหรัฐอเมริกานั้น บางรัฐถ้ามีอยู่ในปริมาณที่กฎหมายกำหนดไว้ก็ถือว่าไม่ผิดกฎหมาย เพราะถือว่าเป็นยารักษาโรคชนิดหนึ่ง แต่ทั้งนี้ผู้ที่ครอบครองก็ต้องมีเอกสารหลักฐานยืนยันการอนุญาตให้ใช้จากแพทย์ด้วย หลักสูตรสาขาเคมีพืชสมุนไพรของมหาวิทยาลัยนอร์ทเทิร์นนี้ ใช้เวลาในการศึกษาทั้งสิ้น 4 ปี โดย รศ.แบรนดอน แคนฟิลด์ อาจารย์สาขาเคมีผู้ให้กำเนิดหลักสูตรนี้เน้นย้ำให้เห็นถึงความยากของหลักสูตร เนื่องจากจะต้องศึกษากัญชาแบบลงลึกผสมผสานกับหลักสูตรชีวเคมีที่เข้มข้น
จุดเริ่มต้นของหลักสูตรนี้เกิดขึ้นหลังจาก รศ.แบรนดอน แคนฟิลด์ ได้เข้าร่วมการประชุมประจำปีของสมาคมเคมีแห่งสหรัฐอเมริกาและได้เล่าถึงความสำคัญของการศึกษาวิเคราะห์สารเคมีที่อยู่ในกัญชา เนื่องจากมีประโยชน์ทางการแพทย์หลายด้าน โดยเฉพาะด้านที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทของมนุษย์ เช่นใช้เป็นยาระงับอาการปวด เป็นต้น หลังจากนั้นอีก 18 เดือน คณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยนอร์ทเทิร์น มลรัฐมิชิแกน จึงได้อนุมัติให้เปิดการเรียนการสอนหลักสูตรนี้ โดยสิ่งที่นักศึกษาจะได้เรียนคือการตรวจวัดและการสกัดสารประกอบในพืชที่มีคุณสมบัติเป็นยา และนำความรู้ที่ได้มาประยุกต์ใช้กับกัญชา ปัจจุบันมลรัฐมิชิแกนอนุญาตให้ใช้กัญชาในทางการแพทย์ได้ แต่การปลูกและการใช้สำหรับพักผ่อนหย่อนใจยังเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย
สิ่งที่อยากจะชี้ให้เห็นก็คือ ในต่างประเทศเขามีวิธีการแก้ปัญหาที่น่าสนใจเสมอ อะไรที่เขามองว่ามันเป็นปัญหาเขาก็ใช้วิธีการ “ศึกษา” พยายามยกระดับสิ่งที่เป็นปัญหาให้เข้าสู่กระบวนการศึกษาเรียนรู้ ซึ่งวิธีการแบบนี้ต้องบอกเลยว่าบ้านเรายังตามไม่ทันความคิดของพวกเขา บ้านเรายังใช้วิธีการบังคับด้วยของกฎหมายอย่างเดียว และยิ่งกฎหมายในบ้านเราไม่เข้มงวดนั่นจึงเหมือนเป็นการใช้อำนาจอย่างไร้เหตุผล แต่ในต่างประเทศกลับมองว่าเป็นปัญหานักก็เอามาเรียนรู้กันซิ ว่าจะทำยังไงให้มันไม่เป็นปัญหา ซึ่งการศึกษาเรื่องของกัญชาครั้งนี้นอกจากจะช่วยยกระดับเรื่องปัญหาของกัญชาในฐานะสิ่งเสพติดได้ระดับหนึ่งแล้ว ยังช่วยให้ในอนาคตเราอาจมียารักษาโรคที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมด้วย
อ้างอิงจาก:nmu.edu, businessinsider