เทรนด์สิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่หลายๆประเทศในโลกให้ความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศที่มีฐานะทางเศรษฐกิจดีทั้งหลาย เริ่มหันหน้าเข้ามาเรื่องนี้กันมากขึ้น ล่าสุดสำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่านายเฮง สวี เกียต รมว.กระทรวงการคลังของสิงคโปร์ ได้ประกาศว่า สิงคโปร์จะมีมาตรการเก็บภาษีคาร์บอน โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปี 2562

42266546_-_16_04_2017_-_pixgeneric     เก็บภาษีคาร์บอน อาจจะเป็นคำที่ฟังดูแปลกในบ้านเรา แต่คงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับประเทศที่เจริญแล้ว เพราะคาร์บอนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สิ่งแวดล้อมถูกทำลายเกิดภาวะเรือนกระจกจนทำให้โลกร้อนขึ้น การประกาศ เก็บภาษีคาร์บอนของทางสิงคโปร์นั้นจะมีการเรียกเก็บ จากทุกภาคส่วนในอัตรา  5.0 ดอลลาร์สิงคโปร์ ( ราว 120 บาท ) ต่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 1 ตัน ซึ่งอัตราภาษีนี้จะเริ่ม ปี 62 เรื่อยไปจนถึงปี 66 หลังจากนั้นทางรัฐบาลสิงคโปร์จะมีการทบทวนอัตราภาษีใหม่อีกครั้งว่าจะมีการเพิ่มหรือไม่ หากจะเพิ่มคาดกันว่าน่าจะเพิ่มขึ้นไปที่ 10 – 15 ดอลลาร์สิงคโปร์ ( ราว 240 ถึง 300 บาท ) ต่อก๊าซเรือนกระจก 1 ตัน ภายในปี 2573

     ทั้งนี้สิ่งที่น่าสนใจก็คือ นายเฮง สวี เกียต รมว.กระทรวงการคลังของสิงคโปร์ ได้มีการกล่าวว่า “สิงคโปร์เป็นประเทศที่ผลิตก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่าแทบทุกประเทศบนโลก” พวกเขามีส่วนในการปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศน้อยมาก เพราะรัฐบาลมีความจริงจังต่อการควบคุมเรื่องนี้ เป็นสิ่งหนึ่งที่ทางสิงคโปร์แสดงความรับผิดชอบต่อสภาพการเปลี่ยนแปลงภาวะอากาศของโลก ซึ่งเมื่อไปดูข้อมูลก็พบว่า ข้อมูลจากองค์กรพลังงานระหว่างประเทศ ( ไออีเอ ) ระบุว่าสิงคโปร์อยู่ในอันดับที่ 26 จาก 142 ประเทศ จากการจัดอันดับเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระต่อหัวประชากร

     ประเทศเล็กๆอย่างสิงคโปร์กล้าออกมาแสดงความรับผิดชอบในการที่ตัวเองมีส่วนทำลายโลกอย่างกล้าหาญ ทั้งๆที่พวกเขาเป็นเพียงส่วนน้อยในการทำลายโลก แต่ประเทศใหญ่ๆ ที่อิทธิพลสูงในการร่วมทำลายโลก ปล่อยก๊าซคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศ ทำให้เกิดภาวะเรือนกระจก กลับดูไม่รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจ และยังไม่มีความจริงจังต่อการใส่ใจสิ่งแวดล้อมและใส่ใจโลกเลย สิงคโปร์ก้าวไปถึงขั้นจะดูแลโลก เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชากร แต่ประเทศไทยกลับมีค่าฝุ่นละอองในอากาศเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คิดๆดูแล้วมันตลกดีนะ เหมือนเรายังไม่เข้าใกล้ประเทศเข้าเลยสักนิดเดียว

อ้างอิง: businesstimes