ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ค่อนข้างจะซบเซาในช่วงนี้ทำให้ใครหลายคน ต้องพยายามเซฟเงินในกระเป๋าไม่อย่างมาก เพราะรายจ่ายดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวแต่รายได้ไม่ได้เพิ่มขึ้น บวกกับค่าครองชีพ สินค้าอุปโภคบริโภคหลายรายการพากันทยอยปรับตัวขึ้นทำให้กำลังซื้อลดลงไปมาก แต่คนรุ่นใหม่รวมถึงคนในวัยทำงานก็ยังติดยึดอยู่กับเทรนด์การใช้บัตรเครดิตรูดจ่ายซื้อสินค้ากันอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง เพราะด้วยความง่ายและสะดวก และนั่นจึงทำให้ปัญหาเรื่องรายจ่ายในครัวเรือนมีมากขึ้นไปด้วยในตอนนี้
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงานว่าดัชนีภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือน (KR-ECI) ในไตรมาสที่ 1 ของปี 61 นี้ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 46.3 ส่วนหนึ่งที่มีการปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วก็เพราะเพิ่งจะผ่านเทศกาลตรุษจีนมา ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องมีการใช้จ่ายสูง จากการสำรวจพบว่า ครัวเรือนไทยในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดยังมีมุมมองต่อภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพในช่วง 3 เดือนข้างหน้าไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดือนก่อน คือ เรื่องรายได้ยังมองบวกอยู่ แต่ครัวเรือนมีความกังวลหนักมากเรื่องของภาวะหนี้สิน โดยเฉพาะหนี้จากบัตรเครดิต นั่นสะท้อนให้เห็นว่าคนไทยในยุคปัจจุบันยังอยู่ในเทรนด์การใช้บัตรเครดิตรูดซื้อรูดจ่ายกันอย่างหนักอยู่ ซึ่งตรงนี้ทำให้เกิดปัญหาหนี้สินในครัวเรือนสูงขึ้นด้วย
อย่างไรก็ดีศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า ทิศทางเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนในเดือนมีนาคมนี้ คาดว่าจะค่อยปรับตัวดีขึ้นที่ละนิด เพราะช่วงนี้คนเริ่มเซฟเงินใช้จ่ายน้อยลง หลังจากผ่านพ้นเทศกาล ประกอบกับสถานการณ์ราคาสินค้ายังทรงตัวอยู่ในระดับใกล้เคียงเดิมและราคาสินค้าเกษตรที่ไม่ค่อยแน่นอน ทำให้ช่วงนี้คนจะใช้จ่ายน้อยลงปัญหาหนี้สินในภาคครัวเรือนจึงจะค่อยๆคลี่คลายลงไปเองตามวงจรการใช้จ่าย
