Facebook ต้องเผชิญวิกฤตใหญ่อีกครั้ง หลังจากมีการเปิดเผยว่า Facebook ได้เผยข้อมูลลูกค้าบางส่วนให้กับบริษัทวิเคราะห์การเมืองในต่างประเทศ ทำให้หุ้น Facebook ตกไปอีกเกือบ 7 %
ดูเหมือนว่าสถานการณ์ของ Facebook จะส่อแวววิกฤตอย่างต่อเนื่อง มาตั้งแต่ Facebook ลด reach จากเพจ และพยายามเพิ่มการมองเห็นของเพื่อนมากกว่าเพจ นั่นทำให้กลุ่มธุรกิจต่างๆที่ต้องอาศัย Facebook เป็นช่องทางในการโฆษณาติดต่อประชาสัมพันธ์กับกลุ่มลูกค้าได้รับผลกระทบอย่างหนัก และจากจุดนั้นเองจึงทำให้หุ้นของ Facebook ดิ่งลงมาเรื่อยๆ และล่าสุดน่าจะเรียกได้ว่าเป็นฝันร้ายที่สุดในรอบ 4 ปีของ Facebook ก็ว่าได้เพราะราคาหุ้นดิ่งลง 6.77% ปิดที่ 172.56 ดอลลาร์ต่อหุ้น ร่วงแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา มูลค่าตลาดหายไปกว่า 3.7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1.2 ล้านล้านบาท เป็นการเซ่นสังเวยข่าวฉาว ที่สื่อของอังกฤษรายหนึ่งได้ไปขุดคุ้ยและได้พบว่า Cambridge Analytica อันเป็นบริษัทที่ทำการวิเคราะห์เรื่องการเมืองในสหรัฐ และโดนัลด์ ทรัมป์ก็ได้มีการว่าจ้างบริษัทนี้ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีที่ผ่านมา ได้สามารถนำข้อมูลโปรไฟล์ผู้ใช้ Facebook จำนวน 50 ล้านคน นำไปใช้อย่างไม่เหมาะสม ซึ่งจะเป็นเช่นนั้นได้ทาง Facebook ต้องรู้และน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ด้วย
ผู้เชี่ยวชาญหลายรายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องกฎหมาย การเมือง ได้วิเคราะห์ว่านี่ถือเป็นการ ‘ล้ำเส้น’ อย่างรุนแรงของทาง Facebook และยังส่งผลกดดันไปถึงเรื่องเดิมที่มีการกล่าวกันว่า Facebook พยายามหาผลประโยชน์กับข้อมูลส่วนบุคคลและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานแต่ละราย ผู้เชี่ยวชาญจาก Investopedia ให้ความเห็นว่าประเด็นนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่ Facebook ต้องรีบจัดการโดยเร็วและเป็นไปได้ที่หุ้นของ Facebook อาจร่วงลงถึง 20% และตอนนี้ส่งผลถึงราคาหุ้นของบริษัทในธุรกิจเดียวกันอย่าง Alphabet (Google) ที่ราคาตกลงกว่า 3% หรือ Amazon ที่หุ้นตก 1.7% แล้วด้วยเช่นกัน
อ้างอิง : bbc, investopedia