อาการของผู้ที่ติดเชื้อไวรัสเดงกีนั้น แบ่งเป็น 2 ชนิดตามความรุนแรงไข้เดงกี และ ไข้เลือดออก
เมื่อมาพูดถึงโรคไข้เดงกีและโรคไข้เลือดออก นั้นจะมีอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสเดงกี โรคทั้งสองนี้มีอาการหลากหลายและสามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิดตามความรุนแรง คือ ไข้เดงกี และ ไข้เลือดออก โดยมีรายละเอียดดังนี้:
ไข้เดงกี
โรคไข้เดงกี (dengue fever) เป็นโรคที่มีการแพร่ระบาดอย่างกว้างขวางในบริเวณที่มีแมลงยุง Aedes aegypti ที่เป็นพาหะในการนำเชื้อไวรัสเดงกีมาสู่มนุษย์ อาการของโรคนี้มักจะปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากติดเชื้อ อาการที่พบได้รวมถึง
- ปวดศีรษะ
- ปวดกระบอกตา
- ปวดเมื่อยตามตัว
- ปวดข้อหรือกระดูก
- ผื่นขึ้นคล้ายผื่นของโรคหัด
- อาจมีภาวะเลือดออกหรือไม่มีก็ได้
ไข้เลือดออก
ไข้เลือดออกเป็นอีกหนึ่งประเภทของโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี โรคนี้มีอาการที่หลากหลายและแสดงออกเป็นลักษณะเฉพาะของโรค อาการที่พบประกอบด้วย:
- มีไข้สูงเฉียบพลันเกิน 38 องศาเซลเซียส เป็นระยะเวลาประมาณ 2-7 วัน
- คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร
- หน้าแดง อาจพบจ้ำเลือดหรือจุดเลือดออกสีแดงเล็กๆ ตามผิวหนัง หรือมีเลือดออกบริเวณอื่น เช่น เลือดกำเดาไหล เลือดออกตามไรฟัน ปัสสาวะ อุจจาระมีเลือดปน
- ปวดท้องอย่างรุนแรง และความกดเจ็บชายโครงด้านขวา
ในรายที่มีอาการรุนแรงมาก อาจเกิดภาวะการไหลเวียนโลหิตล้มเหลวหรือภาวะช็อก และเข้าสู่ระยะที่เรียกว่า “กลุ่มอาการไข้เลือดออกช็อก” (dengue shock syndrome) โดยผู้ป่วยจะมีอาการกระสับกระส่าย ปลายมือปลายเท้าเย็น ปัสสาวะน้อยลง ไข้ลดลงอย่างรวดเร็ว ความดันโลหิตลดต่ำ และชีพจรไม่ได้วัด
สำหรับผู้ป่วยที่ไม่มีภาวะช็อก หลังจากมีไข้สูง 2-7 วัน อาการจะเริ่มบรรเทาลง ระบบไหลเวียนโลหิตจะคืบคลานกลับสู่ภาวะปกติ ความดันโลหิตและชีพจรเริ่มคงที่ เมื่อผ่านไปอีก 2-3 วัน ผู้ป่วยจะเข้าสู่ระยะหายเป็นปกติ อาการจะดีขึ้น ไข้จะลดลง เริ่มรับประทานอาหารได้ และอาการปวดท้องดีขึ้น ระยะนี้ผื่นแดงและคันบนฝ่ามือและฝ่าเท้าอาจเกิดขึ้นและจะหายไปเองภายใน 1 สัปดาห์.
คำสรุป
ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสเดงกีจะมีอาการหลากหลายซึ่งแบ่งเป็น 2 ชนิดหลัก คือ ไข้เดงกี และ ไข้เลือดออก โรคเหล่านี้มีความรุนแรงแตกต่างกัน และควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม เพื่อให้ผู้ป่วยกลับสู่สุขภาพปกติให้เร็วที่สุด.
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
- สามารถป้องกันโรคไข้เดงกีได้อย่างไร? การกำจัดแมลงยุงในบริเวณที่อาจเป็นที่อยู่ของคุณเป็นวิธีหนึ่งที่สำคัญในการป้องกันโรคไข้เดงกี นอกจากนี้ควรใส่เสื้อผ้าที่ป้องกันแมลงยุงและใช้สารกันยุงตามคำแนะนำของแพทย์.
- อาการของโรคไข้เลือดออกแตกต่างจากไข้เดงกีอย่างไร? อาการของโรคไข้เลือดออกมีความหลากหลายมากกว่า โดยมีอาการเพิ่มเติมเช่น มีไข้สูงเกิน 38 องศาเซลเซียส เป็นระยะเวลานานขึ้น และอาจมีเลือดออกจากจุดต่างๆ บนร่างกาย.
- การรักษาโรคไข้เดงกีและไข้เลือดออกเป็นอย่างไร? การรักษาจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ แต่ทั่วไปแล้วจะเน้นการบรรเทาอาการ ดังนั้นควรพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับการรักษาที่เหมาะสม.
- อาการแบบไข้เลือดออกเป็นเรื้อรังหรือไม่? ในบางกรณีอาการของไข้เลือดออกอาจเป็นอันตรายได้ โดยเฉพาะหากมีภาวะเลือดออกหรือภาวะช็อก เรียนรู้เกี่ยวกับอาการและความรุนแรงของโรคเพื่อคำนึงถึงความสำคัญของการรักษาที่เหมาะสม.
- ทำไมถึงเรียกว่า “โรคไข้เดงกี”? คำว่า “ไข้เดงกี” มาจากชื่อของแมลงยุงที่เป็นพาหะในการนำเชื้อไวรัสเดงกีมาสู่มนุษย์ แมลงยุงชนิดนี้มีสีดำและขาว และมักปล่อยกัดทั้งในระหว่างวันและกลางคืน