ในขณะที่บางประเทศน้ำท่วมแล้วท่วมอีก แต่ในอีกซีกโลกก็แล้งจัดจนขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้ ล่าสุดที่เมืองเคปทาวน์ ในแอฟริกาใต้ก็ประสบภาวะวิกฤตภัยแล้งขนานใหญ่ ถึงขนาดรัฐบาลต้องประกาศภาวะฉุกเฉินและมีการควบคุมการใช้น้ำของประชาชน
Flush a maximum of once a day, and where possible, always use greywater. #ThinkWaterCT and use our water calculator to find out how much water you're using per day, and how you can save more https://t.co/luoXQygOhq pic.twitter.com/GriZqlOpV4
— City of Cape Town (@CityofCT) February 12, 2018
เมืองเคปทาวน์ซึ่งเป็นเมืองขนาดใหญ่อันดับ 2 ของแอฟริกาใต้และตั้งอยู่ริมชายฝั่งทางตะวันตก ยังไม่รอดพ้นจากภาวะวิกฤตภัยแล้ง และ ภาวะวิกฤตภัยแล้งครั้งนี้ของเมืองเคปทาวน์รุนแรงเป็นประวัติศาสตร์ เพราะแล้งจัดมากที่สุดในรอบ 100 ปี แม้ว่าฤดูฝนในช่วงเดือนมิ.ย. ถึงส.ค. จะมีมาบ้างที่ปีที่แล้ว แต่ถ้าดูย้อนหลังไป 3 ปีที่ผ่านมาถือว่าปริมาณน้ำฝนต่ำกว่าระดับปกติมาก นั่นจึงทำให้ระดับน้ำในเขื่อนลดลงอย่างต่อเนื่องจนถึง “ขีดอันตราย” รัฐบาลแอฟริกาใต้ได้ประเมินความรุนแรงของ ภาวะวิกฤตภัยแล้งครั้งนี้ ซึ่งมองแล้วว่าวิกฤตหนักมาก จึงได้มีการออกประกาศว่าวิกฤตดังกล่าวถือเป็น “ภัยพิบัติแห่งชาติ”
จากภาวะวิกฤตภัยแล้งในเคปทาวน์นี้ ส่งผลให้ภาครัฐต้องออกมาตรการควบคุมการใช้น้ำของประชาชน แม้ไม่อยากทำแต่ก็ต้องทำ เพราะเพื่อ “ซื้อเวลา” ให้กับประชาชนในเมืองส่วนใหญ่ โดยที่ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปดูแลและจัดการปันส่วนน้ำให้ประชาชนตามจุดแจกจ่ายราว 200 แห่งในพื้นที่ ซึ่งแจกจ่ายน้ำให้แก่ประชาชนคนละ 25 ลิตรต่อวัน ซึ่งน้อยกว่าช่วงต้นเดือนที่ได้โควตาคนละ 50 ลิตรต่อวัน การซื้อเวลาโดยวิธีนี้เป็นทางออกเดียวที่จะช่วยยื้อเวลาหาทางออกจากหลายๆหน่วยงาน ที่ต่างก็กำลังระดมความคิดว่าจะแก้ไขวิกฤตครั้งนี้อย่างไร แม้ว่ามาตรการควบคุมการใช้น้ำของประชาชน การปันส่วนน้ำ จะช่วยทำให้มีปริมาณน้ำสำรองพอใช้ไปอีกสักระยะหนึ่งก็ตาม แต่ข่าวร้ายก็คือ สุดท้ายแล้วก็ต้องมีเส้นตายสุดท้าย ที่อาจบอกได้ว่าเป็นวัน “หายนะ” นั่นคือวันที่น้ำจะแห้งเหือดหมดไปจากเมือง ซึ่งเดิมที่คาดการณ์กันไว้คือ 16 เม.ย. แต่หลังจากภาครัฐเข้ามาจำกัดการใช้น้ำของประชาชน จึงพอยืดเส้นตายออกไปได้ถึง 4 มิ.ย.
หากย้อนกลับมามองที่ประเทศเรา ไทยเราเองก็มีภาวะวิกฤตภัยแล้งทุกปีเช่นกัน มีบางปีวิกฤตหนักถึงขั้นชาวบ้านทะเลาะกันเองเพื่อแย่งน้ำ ในขณะที่ต่างจังหวัดในพื้นที่ทำเกษตรใจเต้นตุ้มๆต่อมๆ ว่าปีนี้จะมีน้ำหรือไม่ ก็เป็นขณะเดียวกันกับคนกรุงเทพฯและเมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆกลับใช้น้ำกันอย่างเป็นล้ำเป็นสัน โลกของเรามีสิ่งที่ตรงกันข้ามแบบนี้เสมอ แต่ก็ขอภาวนาอย่าให้สุดขั้วกันนัก หวังว่าพี่น้องไทยคนเมืองใหญ่จะใช้น้ำอย่างมีสติ คิดถึงหัวอกคนอื่นกันบ้างก็ดี และขอภาวนาว่าอย่าให้ไทยต้องแล้งหนักดังเคปทาวน์แอฟริกาใต้เลย
อ้างอิง:theguardian