เชื่อว่าทุกคนคงรู้จักบริษัทอีคอมเมิร์ซยิ่งใหญ่ของโลกอย่าง “อะแมซอน” (Amazon) กันเป็นอย่างดี เพราะบางคนเคยเป็นลูกค้าใช้บริการซื้อสินค้าผ่านทาง Amazon กันมาแล้วด้วย โดยส่วนใหญ่แล้วในบ้านเรา ถ้ากล่าวถึง Amazon คนจะนึกถึงตลาดซื้อขายหนังสือออนไลน์ แต่ถ้ามองไปในระดับนานาชาติ เขาจะมองต่างจากเรา เพราะทั่วโลกจะรู้ดีว่า Amazon เป็นอีคอมเมิร์ซที่ขายสินค้าแทบทุกชนิด มีให้เลือกหลากหลายแบบ แถมยังมีการจุดโปรโมชั่นสุดพิเศษที่โดนใจลูกค้าจากทั่วโลกได้ด้วย แต่หลังจากนี้ไปอีก 2 – 3 ปี ภาพจำของทุกคนที่มีต่อ Amazon จะต้องเปลี่ยนไป เพราะทาง Amazon เริ่มมีการพัฒนาธุรกิจของตนเองโดยใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยเข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการซื้อขายสินค้าไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

ก้าวสู่สังคมไร้เงินสดอย่างเต็มตัว

     คลิปวิดีโอข้างต้นนั้นเป็นคลิปที่ทาง Amazon ปล่อยออกมาอวดไอเดียและกลยุทธ์ธุรกิจอันล้ำหน้าของตนเองเมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งเนื้อหานั้นได้โชว์ให้เห็นแนวคิดของร้านค้าปลีก (Retail) ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ นั่นคือ เมื่อคุณต้องการจะซื้อสินค้าอะไรสักอย่าง และขณะนั้นคุณไม่มีเงินสดติดตัวก็ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องลำบากเดินไปกด ATM แค่คุณเดินเข้าไปในร้านแห่งนั้น สแกนโทรศัพท์มือถือ จากนั้นหยิบของเลือกซื้อสินค้าที่ต้องการได้ตามใจเลย ไม่จำเป็นต้องพกเงินสดติดตัวก็สามารถซื้อของได้ ที่สำคัญเลือกซื้อสินค้าแล้วไม่จำเป็นต้องไปยืนต่อคิวที่เคาน์เตอร์จ่ายเงิน หยิบของแล้วเดินออกจากร้านได้เลย โอ้ว้าว มันเฉียบมาก เป็นสังคมไร้เงินสดของแท้เลยทีเดียวสำหรับไอเดียนี้ กลยุทธ์ธุรกิจที่ทาง Amazon เผยออกมานี้ทำให้วงการค้าปลีกและบริษัทไอทีรู้สึกทึ่งไปตามๆกัน

Cashless Society     ที่น่าสนใจกว่านั้นคือนี่ไม่ใช่เพียงแค่กลยุทธ์ธุรกิจ ไม่ใช่ไอเดียเพ้อฝันที่ต้องรอเวลาพัฒนา เพราะปัจจุบันทาง Amazon ได้พัฒนาระบบการซื้อขายดังกล่าวขึ้นมาแล้ว และได้มีการทดลองใช้จริงกันไปเรียบร้อย ที่น่าทึ่งคือ “มันใช้ได้จริง” แม้จะยังไม่เต็มรูปแบบและมีปัญหาอยู่ไม่น้อยในการใช้งานก็ตามอย่างระบบที่ใช้งานได้ในตอนนี้นั่น สามารถใช้ได้เพียงลูกค้ารายบุคคลแบบคนต่อคนเท่านั้น ถ้าลูกค้ามาพร้อมกันมากกว่าหนึ่งคน หรือเข้ามาเป็นครอบครัวระบบยังมีความผิดพลาดในเรื่องของการคิดเงินอยู่มากพอสมควรเพราะระบบตัดสินใจไม่ได้ว่าจะคิดเงินในจำนวนที่ถูกต้องกับใครกันแน่ แต่นี่คือสัญญาณที่บ่งบอกว่า ความฝันอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม นี่คือก้าวแรกที่จะเปลี่ยนโฉมการซื้อขายสินค้าของโลกในอนาคต และนี่คือก้าวสำคัญของการผลักดันสังคมไร้เงินสดให้เกิดขึ้นจริง

เข้าซื้อกิจการ Whole Foods

Whole Foods     อีกหนึ่งกลยุทธ์ธุรกิจที่เหนือชั้นแบบมาเหนือเมฆของ Amazon ก็คือ การเข้าซื้อกิจการโฮลฟู้ดส์ (Whole Foods) ซูเปอร์มาร์เก็ตไฮเอนด์ที่เน้นอาหารเพื่อสุขภาพ เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำให้วงการค้าปลีกถึงกับร้อนๆหนาวๆกันเลย เรียกว่าสะเทือนวงการกันเลยทีเดียว เพราะไม่มีใครเชื่อว่าจอห์น แมคเคย์ (John Mackey) ซีอีโอของโฮลฟู้ดส์จะยอมให้สิ่งที่ตนเองรักนั่นคือกิจการของเขาต้องตกไปอยู่ในมือของผู้อื่น (บทสัมภาษณ์ John Mackey) แต่เพราะยอดขายของ Whole Foods นั้นดิ่งลงมาต่อเนื่องเป็นปีๆ สถานการณ์ของกิจการเริ่มสั่นคลอน ซึ่งมันบีบให้แมคเคย์ต้องตัดสินใจทำอะไรบางอย่างเพื่อให้ Whole Foods ยังคงอยู่ในเวทีแข่งขันของโลกธุรกิจ และมีโอกาสที่จะเติบโตเจริญก้าวหน้าต่อไปนั่นจึงทำให้แมคเคย์ เข้าไปเจรจากับทาง Amazon และรับขอเสนอที่ทาง Amazon ยื่นเสนอมาตั้งแต่ตอนแรก ซึ่งหากจะวิเคราะห์กันไปแล้วการที่ แมคเคย์  ตัดสินใจแบบนี้ก็อาจจะดีจริงๆก็ได้ เพราะด้วยเงินทุน องค์ความรู้และทรัพยากรต่างๆ ที่ทางAmazonมีอยู่นั้น คงมีประสิทธิภาพมากพอที่จะทำให้ Whole Foods ยืนหยัดและพร้อมจะเติบโตอย่างแข็งแรงต่อไปได้อีกนาน

170525151037-amazon-books-1024x576     และอย่างที่ทราบกันดี นักกีฬาจะเก่งแต่สนามซ้อมเป็นหมูสนามจริงไม่ได้ นักเรียนจะเก่งแต่ทำการบ้านอย่างเดียวถ้าไม่เคยลงสนามสอบจริง นักมวยเตะแต่กระสอบทุกวัน แต่ไม่เคยชกจริงเลยสักครั้งก็ไม่มีวันที่จะรู้ได้ว่า สิ่งที่ตนเองร่ำเรียนเพียรฝึกซ้อมมาเป็นสิ่งที่ “ใช่” หรือไม่ เช่นกัน Amazon มีแนวคิดจะเปลี่ยนโลกธุรกิจการค้าอยู่แล้ว จะผลักดันให้สังคมโลกก้าวสู่สังคมไร้เงินสดอย่างเต็มตัว แต่ที่ผ่านมาตนเองยังไม่มีเวทีหรือร้านค้าของตนเองจริงๆที่ไม่ใช่ร้านค้าออนไลน์มาเป็นตัวทดลองว่าไอเดียใช้จริงได้ไหม เมื่อได้โอกาสสร้างเวทีของตนเองแบบนี้ก็เสมือนนักวิทยาศาสตร์ได้ห้องทดลองขนาดใหญ่ที่มาพร้อมทีมวิจัยยกชุดเลยทีเดียว กิจการของ Whole Foods  และร้านหนังสือของ Amazon จึงเป็นเสมือนเวทีทดลองกลยุทธ์ธุรกิจสุดเฉียบของพวกเขา ซึ่งพวกเขาจะได้ลองผิดลองถูกปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาต่อไปจากจุดนี้นั่นเอง

     ทั้งหมดนี้เราในฐานะผู้บริโภคก็จะได้ประโยชน์จากการพัฒนาเทคโนโลยีและระบบการซื้อขายแบบใหม่นี้ไปด้วย นี่คือประสบการณ์การช้อปปิ้งรูปแบบใหม่ที่จะทำให้เรารู้สึกได้รับความสะดวกลื่นไหลและเป็นส่วนตัว ประหยัดเวลาต่างๆไปได้มากขึ้น นี่คือกลลุทธ์ธุรกิจสุดเฉียบของ Amazon ที่จะทำให้ทำให้ประสบการณ์การจับจ่ายใช้สอยของพวกเราต้องเปลี่ยนไป เราหวังว่า Startup ไทยรุ่นใหม่ จะเอาแนวคิดเหล่านี้ไปลองปรับใช้กันดู แม้เงินทุนจะน้อยแต่ถ้าไอเดียดีจริงๆก็อาจเป็นไปได้อยู่เหมือนกัน ทำในแบบเล็กๆเป็นรูปแบบของเราแล้วค่อยพัฒนาต่อไปก็ได้ ถ้าทำได้ไม่แน่ คุณจะก้าวกระโดดไปอยู่ในระดับโลกกันเลยทีเดียว