การจัดอันดับความรวยในปีนี้ ที่ 1 ตกเป็นของเจ้าพ่อ Amazon อย่าง ‘เจฟฟ์ เบซอส’  ที่รวยแบบไม่ธรรมดา เพราะทรัพย์สินของเขาคนเดียวรวมกันมากกว่าทรัพย์สินของประชาชนประเทศยากจน 48 ประเทศรวมกัน

สำนักข่าวบลูมเบิร์กได้มีการจัดอันดับเศรษฐีระดับโลก ปรากฎว่านายเจฟฟ์ เบซอส CEO ของบริษัทAmazon ได้ขึ้นแท่นอภิมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกไปเรียบร้อย(ต้องใช้คำว่าอภิมหาเศรษฐีถึงจะเหมาะสมที่สุด)โดยมูลค่าทรัพย์สินที่เจฟฟ์ เบซอส ถือครองนั้น ได้เพิ่มจำนวนขึ้นกว่า 60,000 ล้านดอลลาร์หรือราว 2 ล้านล้านบาทในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบัน เขามีทรัพย์สินรวม 150,000 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 5 ล้านล้านบาท

สิ่งที่เราอยากจะชี้ชวนให้สนใจไม่ใช่เรื่องเรื่องความรวยและทรัพย์สินของเจฟฟ์ เบซอสเท่านั้น แต่อยากจะชี้ให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ เจฟฟ์ เบซอสมีความร่ำรวยถึงขนาดซื้อประเทศเป็นของตนเองได้หลายๆประเทศ มีการเปรียบเทียบว่ามูลค่าทรัพย์สินของเขายังมีมากกว่าจีดีพีของ 48 ประเทศที่ยากจนที่สุดรวมกันเสียอีก เพราะมูลค่าจีดีพีของทั้ง 48 ประเทศนั้นมีมูลค่ารวมกันเพียง 140,000 ล้านดอลลาร์เท่านั้น แต่ขณะที่ทรัพย์สินของเจฟฟ์ เบซอสมีถึง 150,000 ล้านดอลลาร์ และถ้ามองเทียบกับประเทศไทย มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศอยู่ที่ราว 480,000 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 16 ล้านล้านบาท เท่ากับว่ามูลค่าทรัพย์สินของเบซอสคิดเป็น 1 ใน 4 ของจีดีพีของประเทศไทยเลยทีเดียว นั่นจึงชี้ให้เห็นว่า คนที่รวยและมีอิทธิพลต่อโลกใบนี้มีเพียงไม่กี่คนบนโลกเท่านั้น ยิ่งมีทรัพย์สินมาก อำนาจก็ยิ่งมากตามไปด้วย นั่นจึงทำให้สังคมโลกเกิดความเหลื่อมล้ำกันอย่างที่สุด

คนเราจะรวยก็ต้องมีที่มา เจฟฟ์ เบซอส ก็ไม่ต่างกัน เพราะเขาผู้นี้คือผู้ก่อตั้ง Amazon เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่และบลู ออริจิน บริษัทที่บุกเบิกเรื่องการท่องเที่ยวอวกาศในเชิงพาณิชย์แล้ว เจฟฟ์ เบซอสยังได้ซื้อกิจการหนังสือพิมพ์ชื่อดังอย่าง วอชิงตันโพสต์ ขึ้นแท่นเป็นเจ้าของอย่างเป็นทางการอีกด้วย นอกจากนั้นแล้วเจฟฟ์ เบซอสยังนำแบรนด์ Amazon เข้าซื้อกิจการอีกหลายอย่างเพื่อต่อยอดธุรกิจและขยายการให้บริการของ Amazon ให้ครอบคลุมมากขึ้น อย่างโฮลด์ ฟูดส์ กิจการค้าปลีกที่มี 460 สาขาทั่วโลก ซึ่งช่วยบริการส่งอาหารสดของAmazonอย่าง แอมะซอน เฟรช มีประสิทธิภาพมากขึ้น, รวมถึง อเล็กซาแพลตฟอร์มอัจริยะที่สั่งงานและตอบโต้ด้วยเสียง, ทวิตช์บริการไลฟ์ตรีมมิงถ่ายทอดสดทางเว็ปไซต์ และอีกหลากหลายกิจการ ทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาของรายได้มหาศาลจนทำให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกได้นั่นเอง


อ้างอิง : bloomberg