ในปีนี้รัฐมีนโยบายที่จะผลักดันโครงการเมกะโปรเจ็กต์หลายโครงการ อันเป็นยุทธศาสตร์ที่รัฐพยายามจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ภาคเอกชนมองลึกกว่านั้นโดยมองว่ารัฐควรมีการระดมสมองทุกภาคส่วนให้เข้าใจงานให้ตรงกัน ไม่อย่างนั้นรัฐจะเจอกับวิกฤติด้านวัสดุก่อสร้างที่อาจไม่เพียงพอ อีกทั้งในภาคปฏิบัติงานจะมีหลายหน่วยงานไม่เข้าใจการทำงานของภาครัฐทำให้การปฏิบัติงานไม่สอดคล้องจนทำให้โครงการล่มได้
ถึงคราวที่ภาคเอกชนที่มองภาพรวมเศรษฐกิจได้ลึกกว่ารัฐต้องออกโรงเตือนบ้างแล้ว นายสมพร อดิศักดิ์พานิชกิจ เลขาธิการสภาการเหมืองแร่ เปิดเผยว่า ปีนี้ภาครัฐวางโครงการเมกะโปรเจ็กต์ต่างๆไว้หลายโครงการตั้งแต่การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ทั้งรถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน และไทย-ญี่ปุ่น ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหรือมอเตอร์เวย์ การขยายและพัฒนาสนามบิน ท่าเรือน้ำลึก โครงการ EEC ฯลฯ แต่มองกันให้ลึกๆแล้วดูดีในแง่ยุทธศาสตร์เท่านั้น เพราะแนวนโยบายต่างๆยังไม่เป็นที่เข้าใจของส่วนราชการบางหน่วยงาน ซึ่งเห็นได้จากบางหน่วยงานของรัฐเริ่มปฏิบัติงานไม่สอดคล้องกันและเริ่มมีความขัดแย้งกันเองบ้างแล้ว ซึ่งตรงจุดนี้จะเป็นอุปสรรคให้นโยบายรัฐดังกล่าวไม่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย
นายสมพรยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่น่ากังวลและดูจะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่กับโครงการเมกะโปรเจ็กต์ต่างๆของรัฐในครั้งนี้ก็คือเรื่องวิกฤตวัสดุก่อสร้าง เพราะตอนนี้อุตสาหกรรมเหมืองแร่ยังถูกควบคุมต้องรอการกำหนดเขตแหล่งแร่เพื่อการทำเหมือง และการขออนุญาตใช้พื้นที่เพื่อการทำเหมือง ซึ่งผู้ที่จะอนุมัติได้ก็คือรัฐนั่นเอง แต่ในตอนนี้สิ่งเหล่านี้ยังไม่มีความชัดเจน ทำให้การทำเหมืองแร่อันจะได้มาซึ่งวัสดุก่อสร้างประเภท หิน ดิน ทราย มีอุปสรรคมากโดยเฉพาะหินโรยทางโครงการรถไฟ ซึ่งดูแล้วจะไม่เพียงพอ ซึ่งตอนนี้ภาคเอกชนเริ่มที่จะมองหาช่องทางนำเข้าหินจากประเทศเพื่อนบ้านแล้ว แต่ถ้าต้องขนส่งในระทางเป็นร้อยกิโลเมตรก็ดูจะไม่คุ้มต้นทุน และถึงแม้รัฐจะเป็นคนนำเข้าเอง คิดไปแล้วยังไงก็ไม่คุ้มอีกทั้งไม่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจภาครวมด้วย ดังนั้นเมกะโปรเจ็กต์ชะงักแน่ โครงการที่จะใช้หินก่อสร้างในช่วงปลายปี 2561 หรือ 2562 ต้องเจอปัญหาแน่และจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
แต่อย่างไรก็ดีภาคเอกชนก็ไม่นิ่งดูดายที่จะปล่อยให้โครงการเมกะโปรเจ็กต์ต่างๆต้องหยุดชะงักลง สภาการเหมืองแร่ จึงร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สมาคมอุตสาหกรรมย่อยหินไทย สมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน และ ชมรมสินแร่อุตสาหกรรมและวัสดุก่อสร้าง จัดการสัมมนาภายใต้หัวข้อ “สัญญาณเตือน…เมกะโปรเจ็กต์ไทยและอุตสาหกรรมก่อสร้าง” ในวันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม พ.ศ.2561 เวลา 09.00-16.15 น. ที่ห้องบอลรูม 2 โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ ทั้งนี้เพื่อเป็นเวทีในการสะท้อนปัญหาจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง หาทางเตรียมและปรับแก้ไขไม่ให้เกิดปัญหาไปกระทบต่อการพัฒนาประเทศ โดยดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และ ในวันเดียวกันนั้น นางสาวพจณี อรรถโรจน์ภิญโญ รองเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ จะบรรยายเรื่อง “โครงการEECกับผลบวกต่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง” นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร จะบรรยาย “แผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั่วไทยใน 1 ทศวรรษ” นอกจากนั้นยังมีผู้ทรงคุณวุฒิอีกหลายท่านจะมาเสวนากันในประเด็นเหล่านี้เพื่อที่จะให้เกิดทางออกที่ดีต่อแนวนโยบายการทำงานโครงการเมกะโปรเจ็กต์ของรัฐนั่นเอง
อ้างอิง : ฐานเศรษฐกิจ