สาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่ในมือถือหมดเร็วแบบน่าใจหาย พร้อมวิธีแก้ปัญหาให้ถูกจุด
เกิดปัญหา! แบตเตอรี่มือถือหมดเร็วแบบน่าใจหาย
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้แบตเตอรี่มือถือของคุณหมดเร็วได้นั่นคือ ความสว่างของหน้าจอที่ใช้งานอย่างไม่เหมาะสม เหตุผลและวิธีการแก้ไขปัญหาดังนี้
สาเหตุที่ 1 ความสว่างของหน้าจอที่เกินมาก
บางครั้งเราอาจมองว่าการเพิ่มความสว่างให้กับหน้าจอมือถือจะช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น แต่การที่ใช้ความสว่างสูงสุดอย่างต่อเนื่องก็จะเป็นสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่ระบบอินเทอร์เฟซทำงานอย่างรวดเร็วเกินไป และเสียพลังงานไปโดยไม่จำเป็น
วิธีการแก้ไข ควรเลือกตั้งค่าความสว่างที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม หรือใช้ระบบความสว่างอัตโนมัติที่ช่วยปรับความสว่างได้
สาเหตุที่ 2 การใช้งานโปรแกรมที่ค้างไว้
โปรแกรมต่าง ๆ ที่ทำงานอยู่ในมือถืออาจมีผลต่อการใช้งานแบตเตอรี่ หากมีการแจ้งเตือนหรือการทำงานพื้นหลัง อุปกรณ์ภายในเครื่องจะต้องใช้พลังงานในการทำงานและรับมือกับโปรแกรมนั้น ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้แบตเตอรี่ลดลงได้เร็วขึ้น
วิธีการแก้ไข: หากคุณไม่แน่ใจว่ามีโปรแกรมใดที่ทำงานอยู่บนมือถือ แนะนำให้เริ่มต้นใหม่โดยรีสตาร์ทอุปกรณ์ทุกเช้า สำหรับ Android สามารถกดปุ่ม Recent Apps แล้วกดปุ่มปิดทั้งหมด
สาเหตุที่ 3 อัตราความเคลื่อนไหวที่สูง
มือถือรุ่นล่าสุดมีความสามารถในการแสดงผลหน้าจออย่างรวดเร็ว แต่การใช้อัตราความเคลื่อนไหวที่สูงตลอดเวลาและในทุกๆ แอปพลิเคชันอาจทำให้แบตเตอรี่หมดไวได้
วิธีการแก้ไข เลือกใช้อัตราความเคลื่อนไหวที่เหมาะสมกับการใช้งาน บางรุ่นของมือถือมีฟีเจอร์ที่ชื่อว่า Adaptive Refresh Rate ที่สามารถปรับความเร็วการแสดงผลโดยอัตโนมัติ ซึ่งสามารถช่วยลดการใช้พลังงานได้บ้าง
สาเหตุที่ 4 เปิดใช้งานเทคโนโลยี 5G ที่ไม่จำเป็น
เทคโนโลยี 5G อาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากการทำงานที่ต้องใช้งานด้วยความเร็วสูง รวมถึงการจับสัญญาณแบบหลายความถี่ที่ทำให้เครื่องทำงานหนัก
วิธีการแก้ไข เลือกใช้งานเทคโนโลยี 5G อย่างเหมาะสมกับการใช้งาน บางรุ่นอาจมีการปรับการทำงานให้เหมาะสมเพื่อประหยัดพลังงาน
สาเหตุที่ 5 เลือกโหมดการใช้พลังงานที่ไม่เหมาะสม
สุดท้าย การเลือกโหมดการใช้พลังงานบางรุ่นอาจมีตัวเลือกให้เราเลือกใช้งาน ซึ่งอาจทำให้แบตเตอรี่หมดได้เร็วขึ้น
วิธีการแก้ไข: หากคุณต้องการให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน คุณสามารถเลือกใช้โหมดประหยัดพลังงาน โหมดดังกล่าวอาจถูกเรียกว่า “Low Power Mode” สำหรับ iPhone หรือโหมดอื่น ๆ สำหรับรุ่นอื่น ๆ
ให้คุณลองปรับปรุงการใช้งานโดยใช้เคล็ดลับเหล่านี้ผ่านมือถือของคุณได้เลย ในครั้งถัดไปทีม Sanook Hitech จะมานำเสนอเคล็ดลับอื่น ๆ อีกเพื่อให้คุณได้มีประสบการณ์การใช้งานมือถือที่ดีขึ้น รอให้คุณติดตามเราต่อไปนะคะ
