องค์กรเพื่อผู้บริโภคในต่างประเทศได้ทำการศึกษาเรื่องของกาแฟ ซึ่งพบข้อมูลที่น่าสนใจว่า ในกาแฟที่เราดื่มกันนั้นมีสารก่อมะเร็ง แต่สิ่งเหล่านี้ดูจะไม่สำคัญสำหรับผู้บริโภค เพราะยอดขายกาแฟจากทั่วโลกยังคงพุ่งสูงอย่างต่อเนื่องและความนิยมบริโภคกาแฟก็ไม่มีทีท่าว่าจะลดลง

     ได้มีการศึกษาถึงโทษและประโยชน์ของกาแฟในต่างประเทศจากองค์กรเพื่อผู้บริโภค จึงได้ข้อมูลใหม่ที่พบว่ากาแฟที่เราดื่มกันนั้นส่วนผสมของสารก่อมะเร็ง ‘อะคริลาไมด์’ ซึ่งเป็นสารที่เกิดขึ้นในช่วงที่คั่วเมล็ดกาแฟ ซึ่ง ‘อะคริลาไมด์’ นั้นไม่ได้พบได้แค่ในกาแฟแต่ยังสามารถพบได้จากอาหารประเภทที่ผ่านการทอดอีกด้วย เรื่องนี้เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาองค์กรเพื่อผู้บริโภคที่ได้ทำการศึกษาเรื่องดังกล่าว มีความเห็นว่าจะฟ้องร้องต่อศาลประจำรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ เพื่อบังคับให้ร้านกาแฟทั่วไปจำเป็นต้องระบุคำเตือนบนภาชนะให้ผู้บริโภคทราบว่ากาแฟมีสารบางชนิดที่ก่อมะเร็งได้ แต่ทั้งนี้ยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการอาหารอีกหลายท่านออกมาโต้แย้ง และระบุว่ายังมีไม่งานวิจัยที่แน่ชัดที่ระบุได้ว่าอะคริลาไมด์ในกาแฟจะก่อให้เกิดมะเร็งจริงๆ อีกทั้งการเสี่ยงเป็นมะเร็งถ้ามองแล้ว ผู้ไม่ได้ดื่มกาแฟเลยก็ยังมีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งได้ไม่น้อยกว่าผู้ที่ดื่มกาแฟ

     เรื่องกาแฟมีสารก่อมะเร็งนั้น อาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร มีข้อมูลเรื่องนี้มานานแล้ว แต่เราก็ยังพบว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้เลย ซึ่งเราพบได้ทั่วไปเราจะเห็นธุรกิจกาแฟที่เติบโตขึ้น คนขายกาแฟเยอะขึ้น คนดื่มกาแฟกันมากขึ้นด้วย จากที่เคยดื่มเฉพาะช่วงเช้าปัจจุบันนี้ผู้คนดื่มกาแฟกันได้ตลอดทั้งวันเลยทีเดียว องค์กรกาแฟระหว่างประเทศ หรือ ICO เปิดเผยสถิติส่งออกและบริโภคกาแฟทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีการระบุว่า 10 ประเทศที่บริโภคกาแฟมากที่สุดในโลก ได้แก่ ฟินแลนด์, สวีเดน, ไอซ์แลนด์, นอร์เวย์, เดนมาร์ก, ออสเตรีย, สวิตเซอร์แลนด์, กรีซ, บอสเนีย และเยอรมนี แต่ประเทศที่เป็นต้นตำรับการชงกาแฟสูตรยอดนิยมอย่างอิตาลีหรือฝรั่งเศสไม่ติดอยู่ใน 10 อันดับแรก

     สำหรับกาแฟในแง่ของรายได้ทางเศรษฐกิจนั้น ถ้ามองในแง่ของการปลูกและส่งออกกาแฟเราจะพบว่า บราซิล ผู็ปลูกและส่งออกกาแฟรายใหญ่ของโลก ส่งออกกาแฟในปีที่ผ่านมารวมแล้วกว่า 3,060 ล้านกิโลกรัม ตามด้วยเวียดนาม, โคลอมเบีย, อินโดนีเซีย, ฮอนดูรัส, เอธิโอเปีย, อินเดีย, ยูกันดา, เปรู และเม็กซิโก ซึ่งการส่งออกกาแฟล้วนสร้างรายได้และสร้างงานในประเทศเหล่านี้จำนวนมหาศาล

      ICO ระบุว่าขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันว่ากาแฟจะทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็งมากขึ้น ฉะนั้น ยังไม่ต้องกังวล แต่สิ่งที่ต้องระวังก็คือ กระบวนของการปลูกกาแฟ หากมีการใช้สารเคมีในขั้นตอนการปลูก แน่นอนว่าย่อมส่งผลต่อสุขภาพผู้บริโภคในระยะยาวได้ อีกทั้งการดื่มกาแฟที่มีน้ำตาลมากๆก็ย่อมทำให้เสี่ยงต่อการเป็นเบาหวาน สิ่งเหล่านี้เท่านั้นที่ดูจะเป็นปัญหาสำหรับกาแฟ

     อย่างไรก็ดี กาแฟนับเป็นสิ่งที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาลต่อทั้งโลก เป็นสินค้าส่งออกที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นรองแค่น้ำมันเท่านั้น กาแฟมียอดการขายสูงถึงประมาณ 5 แสนล้านล้านแก้วต่อปี หากคิดต่อวัน จะมีคนทั่วโลกดื่มกาแฟวันละ 2,250 ล้านแก้ว และสำหรับในบ้านเราธุรกิจกาแฟก็ยังเป็นธุรกิจยอดฮิตของคนรุ่นใหม่อีกด้วย

 

อ้างอิง: reuters, mindbodygreen, thepourover