ขณะนี้สถานการณ์ค่าเงินของอินโดนีเซียและอินเดียกำลังดิ่งลง ทำให้ส่งผลต่อราคาสินค้าเกษตร ทั้งสองประเทศจึงแข่งขันตัดราคา งานนี้กระทบถึงส่งออกเกษตรไทย ผู้ค้าหวั่นใจจึงรีบจี้แบงก์ชาติเข้าช่วย

โลกกำลังปั่นป่วนจากภาวะเศรษฐกิจของ 2 ชาติในเอเชีย ทั้งอินโดนีเซียและอินเดีย ขณะนี้มีความปั่นป่วนในเรื่องค่าเงินอันเป็นผลพวงจากสงครามการค้าจีน – สหรัฐฯ ที่กระทบกับหลายๆประเทศ ทำให้ค่าเงินของหลายประเทศอ่อนค่าดิ่งลงอย่างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าเงิน ‘รูเปีย’ ของอินโดนีเซียที่ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 20 ปี ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2541 และอีกหนึ่งรายที่อาการหนักไม่แพ้กันก็คือ ค่าเงิน ‘รูปี’ ของอินเดีย ที่ร่วงลงอย่างหนักต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ถ้าดูสถานการณ์ค่าเงินต่างๆในเอเชียขณะนี้จะพบว่า ความเคลื่อนไหวสกุลเงินต่างๆ  ในเอเชียตั้งแต่ต้นปีมาจนถึง วันที่ 6 ก.ย. 61 มีเพียง ‘เงินเยน’ ของญี่ปุ่นเท่านั้น ที่แข็งค่าสูงสุด ในขณะที่สถานการณ์ค่าเงินบาทของไทยในตอนนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินในประเทศตลาดเกิดใหม่ แต่นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ทำธุรกิจภาคส่วนต่างๆ เริ่มหวั่นใจ เพราะการที่เงินบาทของไทยอ่อนค่าน้อยกว่าสกุลของประเทศต่างๆ จะส่งผลกระทบต่อความสามารถการแข่งขันด้านการส่งออกของไทยลดลง โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและสินค้าที่ใช้วัตถุดิบภายในประเทศ

Fur-exportsด้านน.ส.กัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า สมาชิกของ สรท. มีความกังวลต่อค่าเงินของหลายประเทศที่อ่อนค่าลงมาก เช่น อินเดีย อินโดนีเซีย ได้เปรียบสินค้าไทยในการนำเสนอราคาต่อลูกค้าที่ต่ำลง เพราะอินเดีย อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นคู่แข่งขันส่งออกไทยหลายสินค้าในตลาดโลก เช่น อินเดีย ในสินค้าข้าว น้ำตาล อัญมณี และเครื่องประดับ เป็นต้น และอินโดนีเซีย ในสินค้าผลไม้เมืองร้อน เช่น สับปะรด รวมถึงสินค้ายางพารา และอาหารทะเลแปรรูป เป็นต้น ค่าเงินของทั้ง 2 ประเทศ ที่อ่อนค่าลง

image_big_5aff610f4060fนายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า อินเดียเป็นคู่แข่งสำคัญของการส่งออกข้าวไทย จากเงินรูปีที่อ่อนค่าลง ผู้ส่งออกข้าวรู้สึกกังวลจะกระทบต่อการแข่งขันส่งออกข้าวไทยกับอินเดีย (ปี 2560 อินเดียส่งออกข้าวอันดับ 1 ของโลก ปริมาณ 12.04 ล้านตัน ไทยอันดับ 2 ปริมาณ 11.67 ล้านตัน และ 7 เดือนแรกปีนี้อินเดียส่งออกแล้ว 7.34 ล้านตัน ไทย 6.16 ล้านตัน) เพราะราคาข้าวอินเดียอาจจะถูกลงอีก จากเวลานี้ราคาข้าวขาว 5% ของไทยและอินเดียใกล้เคียงกันที่ 390-395 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน

หลายภาคส่วนเริ่มหวั่นใจจึงพยายามจี้ให้แบงก์ชาติเข้ามาช่วยควบคุมดูแลในส่วนนี้ ด้านผู้ส่งออกหากจะทำการป้องกันปัญหาไว้ก่อน ผู้ส่งออกไทยควรพัฒนาศักยภาพเพิ่มความสามารถในการแข่งขันควบคู่กับการเน้นทำตลาดในประเทศและเพื่อนบ้าน อย่างฟิลิปปินส์ส่งออกสินค้าประเภทอิเล็กทรอนิกส์อาจจะลดราคาแข่งกับไทย ฉะนั้น ของเราต้องดีจริงถึงจะแข่งกันกับประเทศเพื่อนบ้านได้